รวม 2 วันที่ผ่านมาตอนนี้ดัชนี, กองทุนและสินทรัพย์หลักๆปรับตัวลดลงไปตามนี้
- ดัชนี NASDAQ Composite -4%
- ดัชนี S&P 500 -2%
- หุ้น Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) -15%
- กองทุน Ark Invest -10%
ด้าน บิทคอยน์ ร่วงหนักที่สุดที่ -15% !
แต่ที่น่าสนใจคือ Dow Jones กลับบวก +0.2% ! และทองคำ +2%
เกิดอะไรขึ้นในตลาดกันบ้าง ? และนักลงทุนควรจะจับตามองอะไรบ้าง ? ทางแอดจะมาสรุปให้ฟังครับ
1️. อย่างแรกเลยถ้าใครเห็นว่าดัชนี SET บวกขึ้นมาถึง 1,500 จุดแล้วคิดว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกก็คงเขียวตามกันไปด้วยนั้นคงคิดผิดครับ เพราะสินทรัพย์อื่นๆทั่วโลกกำลังโดนเทขายกันหนักทีเดียว
2️. แต่ตลาดหุ้นในประเทศ Emerging Market บางประเทศกำลังกลับรอดการเทขายนี้ไปได้ เพราะกำลังเกิด "Sector Rotation" ที่สำคัญเกิดขึ้น
3️. SectorRotation คือปรากฏการณ์ที่นักลงทุนกำลังพยายามย้ายเงินออกจากหุ้นกลุ่มนังไปยังหุ้นอีกกลุ่มเพราะเห็นโอกาสในการเติบโตมากกว่า
ซุ่งตอนนี้หุ้นกลุ่ม Growth หรือกลุ่ม Technology ที่ราคาดีดขึ้นมาสูงมากในช่วงโควิด กำลังโดนนักลงทุนเทขายทำกำไรและนำเงินมาลงทุนในกลุ่มหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock) มากขึ้นนั้นเอง ทำให้หุ้นในไทยและหลายประเทศในเอเชียที่มีหุ้นวัฏจักรเป็นส่วนใหญ่ในตลาดไม่โดนกระทบจากการเทขายทั่วโลกมากนัก
4️. และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมดัชนี Dow Jones ยังคงยืนได้อยู่ที่ +0.2% ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทั้งๆที่ดัชนีอื่นๆอย่าง Nasdaq และ S&P500 กำลังโดนเทขายอย่างหนัก เพราะมีกลุ่มหุ้นวัฏจักรมากกว่า
ทำไมถึงกำลังเกิด Sector Rotation ขึ้น ?
5️. แน่นอนว่าการมาของวัคซีน นั้นเป็นปัจจัยแรก การที่ผู้ติดเชื้อในสหรัฐและในประเทศต่างๆกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดเชื่อว่าวิกฤตไวรัสโควิด กำลังจบลงไปแล้ว และทำให้เงินไหลเข้าหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่กำลังราคาถูก หรือราคาขึ้นมาน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆมากในช่วงปีที่ผ่านมา
6️. อีกปัจจัยนั้นมาจากสัญญาณการ ดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทำให้เงินอาจไหลออกจากตลาดหุ้นกลับไปสู่ตลาดพันธบัตรเหมือนเดิมแทนอีกครั้ง
7️. อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุ 1.3% เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากสินทรัพย์ปลอดภัยกำลังให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น นักลงทุนจึงพยายามเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อทำกำไร และย้ายเงินมาเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรมากขึ้น
8️. ประกอบกับการที่สถานการณ์ไวรัสระบาดดีขึ้นมาก และแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่าค่าเงินอาจจะกลับมาเฟ้อได้เร็วขึ้นกว่าที่คาด และอาจจะเป็นการเร่งให้ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
การแถลงนโยบายการเงินของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสคืนนี้จะ สำคัญมากมาก
9️. คืนนี้ทาง Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐมีนัดแถลงสภาพเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของหรัฐ (ประมาณ 4 ทุ่มเวลาไทย) ตามธรรมเนียมที่ประธาน Fed จะมาอัพเดทให้สภาทราบปีละ 2 ครั้ง
10. นักลงทุนทุกท่านควรจับตามองผลการแถลงให้ดี บอกได้เลยว่าคืนนี้สำคัญมากๆ ถึงแม้ว่าเราจะทราบกันดีว่า FED คงยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แต่คำพูดต่างๆจะสื่อถึงสัญญาณที่ว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ, อัตราเงินเฟ้อ, รวมมาตรการกระตุ้นสภาพคล่องของ FED หรือ QE จะเป็นอย่างไรต่อไปด้วย
11. บอกได้เลยว่าตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ตลาดโดนเทขายลงมาอย่างหนักในคืนนี้ ชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของนักลงทุนรายใหญ่ ว่าพวกเขาอาจจะทราบถึงความเป็นไปได้ของคำพูดของ Powell ไปแล้วหรือไม่ ? จึงเทขายทำกำไรก่อน ?
หรือหากยังไม่ทราบพวกเขาก็เทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อน และหากคำพูดของ Powell ยังเป็นไปในแนวทางที่ดีค่อยยังสามารถกลับเข้ามาช้อนหุ้นใหม่อีกครั้งได้
12. ถึงแม้นักลงทุนรายย่อยจะเสียเปรียบอย่างที่ Chamath บอก แต่เราก็ควรติดตามผลการแถลงนี้อย่างใกล้ชิด จะได้ปรับพอร์ตให้ทันกับสถานการณ์ในอนาคตได้
ราคา Bitcoin ร่วงลงมา -20% ภายใน 2 วันแล้ว
13. ราคา Bitcoin ยังคงโดนเทขายไม่หยุด ร่วงจากระดับ 57,000 เหรียญเมื่อ 2 วันก่อน ลงมาเหลือเพียง 45,000 เหรียญในคืนนี้แล้ว หรือร่วงลงไปกว่า -20%
14. สาเหตุหลักๆที่หลายคนได้ยินว่าทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงมานั้นอาจเป็นเพราะทาง Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐออกมากล่าวเตือนนักลงทุน เกี่ยวกับความเสี่ยงในการถือครองบิตคอยน์และบอกว่าเธอไม่เห็นว่า Bitcoin จะถูกนำมาใช้จ่ายในการทำธุรกรรมเป็นวงกว้างได้ เพราะเธอคิดว่า Bitcoin มักถูกใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
15. และทางป้า Yellen ยังได้ออกมาเตือนอีกว่า "เหล่าแมงเม่าที่เร่งเข้าตลาดอย่างไม่ศึกษาระวังจะติดดอย"
16. ทั้งหมดนี้มีผลต่อราคา Bitcoin ในระยะสั้นอย่างแน่นอน แต่การที่ราคา Bitcoin เหวี่ยงแรงขนาดนี้นั้นต้องบอกว่ามาจากการซื้อขายเก็งกำไรของ Bitcoin ที่มีกันอย่างหนักอยู่เสมออยู่แล้วอีกด้วย
ทำให้หลายครั้งเราอาจไม่สามารถประเมินทิศทางของราคา Bitcoin ได้จากข่าวอย่างเดียว
ทางด้านราคาหุ้นบริษัท Tesla ก็ร่วงลงมา -15% ภายใน 2 วันและดึงให้กองทุนสุดที่รักของชาวไทย Ark Investment ร่วงลงมา -10% ไปด้วย
17. แน่นอนว่าการที่เงินกำลังไหลออกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไปเข้าหุ้นกลุ่มวัฏจักรนั้น ทาง Tesla กับ Ark ต้องได้รับผลกระทบเต็มๆ
18. แต่จริงๆแล้วการโดนเทขายในครั้งนี้ของ Tesla และ Ark ยังมีรายละเอียดมากกว่านั้น ไว้เดี๋ยวแอดจะมาเขียนบทความแยกอีกอันนะครับ
ตอนนี้ทาง Michael Burry คงกำลังยิ้มอยู่แน่นอน!