- เน็ตฟลิกซ์จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ในวันอังคารที่ 19 มกราคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $6,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $1.35
หุ้นของบริษัทผู้ให้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ถือเป็นตัวเลือกที่เนื้อหอมมากในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 ช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดโควิด-19 กำลังลุกลามไปทั่วโลกและมนุษยชาติยังไม่รู้ว่าจะปรับตัวอยู่กับมันเช่นไร การล็อกดาวน์จึงเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด การดำเนินการนั้นทำให้ผู้บริโภคไม่มีกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจอื่นนอกจากการรับชมภาพยนตร์อยู่ในบ้านของตนเอง
ในขณะที่เน็ตฟลิกซ์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค การเพิ่มขึ้นของยอดผู้สมัครสมาชิกก็ทำให้บรรดาผู้ที่อยู่ในแวดวงภาพยนตร์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโลกออนไลน์ ยักษ์ใหญ่หลายเจ้าได้หันมาลงทุนกับการทำระบบเพื่อรองรับภาพยนตร์สตรีมมิ่งเป็นจำนวนมาก สร้างความไม่แน่นอนให้กับอนาคตการเติบโตของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่นักลงทุนจะจับตาดูในการรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้มากที่สุดจึงจะเป็นตัวเลขหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่าเน็ตฟลิกซ์ยังไม่เจอกับทางตัน
การที่กราฟหุ้นของเน็ตฟลิกซ์วิ่งอยู่ในรูปแบบไซด์เวย์มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนบางส่วนเริ่มตั้งคำถามกับบัลลังก์ราชาภาพยนตร์สตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์แล้วว่าจะสามารถรักษาบัลลังก์นี้เอาไว้ได้นานเพียงใด ล่าสุดยอดผู้สมัครสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 เพิ่มขึ้นเพียง 2.2 ล้านคนเท่านั้นในขณะที่ตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ตั้งเอาไว้ที่ 3.32 ล้านคน
นี่จึงเป็นจุดที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งในการรายงานผลประกอบการครั้งนี้ เพราะตัวเลขยอดผู้สมัครสมาชิกในไตรมาสสามลดลง ครั้งนี้เน็ตฟลิกซ์จึงได้ลดตัวเลขประมาณการยอดผู้สมัครสมาชิกในไตรมาสที่ 4 ลงมาเหลือ 6 ล้านคน น้อยกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์วอลล์ สตรีทตั้งเอาไว้ที่ 6.54 ล้านคนเสียอีก
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เน็ตฟลิกซ์มีคู่แข่งคนสำคัญให้จับตามองอย่างใกล้ชิดคือบริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งของดิสนีย์ (NYSE:DIS) ที่มีชื่อว่า “ดิสนีย์พลัส (Disney+)” เพราะการเปิดตัวของดิสนีย์พลัสนั้นนับว่าไม่ธรรมดา ดิสนีย์พลัสสามารถมียอดผู้สมัครสมาชิกเฉพาะในสหรัฐอเมริกามากถึง 80 ล้านคนได้ภายในปีแรก เทียบกับยอดผู้สมัครสมาชิกในเดือนกันยายนที่มีอยู่ 195 ล้านคน
ปัจจัยกดดันราชาภาพยนตร์สตรีมมิ่ง
งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากจาก Nielsen ที่วิจัยเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่มีผู้คนรับชมมากที่สุดในรอบ 10 ปีพบว่า 7 ใน 10 เรื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีให้ชมและถูกเลือกมากที่สุดจากบริการของดิสนีย์พลัส นอกจากนี้ในงานวิจัยดังกล่าวยังบอกด้วยว่าการใช้เวลารับชมภาพยนตร์เน็ตฟลิกซ์ของผู้บริโภคลดลงจาก 31% ในปี 2019 เป็น 28% ในปี 2020 ในขณะที่เวลาของดิสนีย์พลัสเพิ่มขึ้น 6%
เมื่อมาดูที่กราฟหุ้นเปรียบเทียบระหว่างเน็ตฟลิกซ์กับดิสนีย์ในรอบสามเดือนล่าสุดจะเห็นได้ว่าขาขึ้นของหุ้นดิสนีย์วิ่งสวนทางอยู่กับการไซด์เวย์ของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ แสดงให้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปรับตัวลดลง 8% ในช่วงสามเดือนล่าสุด ส่วนหุ้นของดิสนีย์ปรับตึวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมมากถึง 39% ปัจจุบันหุ้นเน็ตฟลิกซ์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $497.98 ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือตอนนี้เน็ตฟลิกซ์ไม่ได้มีคู่แข่งเพียงดิสนีย์พลัสเพียงเจ้าเดียว แต่ยังมีช่อง เอชบีโอ แมกซ์ (HBO Max) จากเอทีแอนด์ที (NYSE:T) และคอมแคส (NASDAQ:CMCSA) ด้วย
แม้จะถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “5 เทพหุ้นเทคฯ (FAANG)” ของยุคนี้ แต่เน็ตฟลิกซ์ก็ถูกเปรียบเทียบให้เป็นน้องเล็กของกลุ่มเนื่องจากเน็ตฟลิกซ์ถือเป็นบริษัทที่มีเงินหมุนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอีกสี่บริษัท การพยายามตอกย้ำจุดยืนของเน็ตฟลิกซ์ที่ต้องการผลิตภาพยนตร์คุณภาพออกมาอยู่ตลอดทำให้บริษัทใช้เงินลงทุนกับต้นทุนเหล่านั้นเป็นจำนวนมากในแต่ละไตรมาส
เพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้ เน็ตฟลิกซ์จึงได้ขึ้นค่าบริการในไตรมาสที่ 3 ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นค่าบริการเป็นครั้งที่สอง การขึ้นค่าบริการในสภาวะที่ผู้คนมีความยากจนลง อาจทำให้เน็ตฟลิกซ์เสียลูกค้าที่ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ต่อไปได้ การเพิ่มค่าบริการครั้งก่อนของเน็ตฟลิกซ์เคยสร้างบทเรียนให้กับบริษัทมาแล้ว ทันทีที่เน็ตฟลิกซ์เพิ่มค่าบริการ อัตราการเติบโตของยอดผู้สมัครสมาชิกก็ลดลงภายในเวลาไม่นาน
โดยสรุปแล้ว
การเพิ่มขึ้นของคู่แข่งทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าเน็ตฟลิกซ์จะยังรักษาตำแหน่งผู้นำแห่งวงการภาพยนต์สตรีมมิ่งเอาไว้ได้หรือไม่ แต่สิ่งที่ทำให้เน็ตฟลิกซ์ได้เปรียบคู่แข่งอยู่มากและไม่อาจตามทันได้ง่ายคือเน็ตฟลิกซ์มีลูกค้าอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วย กว่าที่คู่แข่งเหล่านั้นจะไล่ตามเน็ตฟลิกซ์ทันอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ดังนั้นหากว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลงเพราะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ให้พิจารณาว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าถือหุ้นเน็ตฟลิกซ์