🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

หุ้น Intel น่าถือหรือไม่ในปี 2021?

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 05/01/2564 17:57
INTC
-
AAPL
-
AMZN
-
NVDA
-
AMD
-
TSM
-

ปี 2020 ที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นปีหนึ่งที่นักลงทุนของอินเทล (NASDAQ:INTC) บริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาไม่รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่นัก แม้ว่าปีที่แล้วการเติบโตของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะมีมากจนพาดัชนีแนสแด็กปรับตัวขึ้นได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีหลักอื่นๆ แต่ในแง่ของบริษัทผู้ผลิตชิปฯ กลายเป็นว่าอินเทลถูกแย่งความสนใจไปจากบริษัทคู่แข่งอื่นๆ ที่มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจกว่าอย่างเช่นเอเอ็มดี (NASDAQ:AMD) เอ็นวีเดีย (NASDAQ:NVDA)และทีเอสเอ็ม (NYSE:TSM) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน นักวิเคราะห์บางคนมองว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะกลยุทธ์การตลาดที่ล้าหลังเกินกว่า 50 ปีไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันอีกต่อไป

ไม่ใช่ว่านักลงทุนของอินเทลจะไม่รู้เรื่องนี้ ที่ผ่านมาพวกเขาพยายามรวมกันกระตุ้นและกดดันอินเทลมาโดยตลอดในการหากลยุทธ์การตลาดอื่นเพื่อฟื้นอัตราการเติบโตให้กับหุ้นบริษัท แต่ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทมีข้ออ้างที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานฉบับหนึ่งที่เขียนถึงบอร์ดบริหารของอินเทลซึ่งใจความของจดหมายฉบับนั้นเผยว่า

“เราไม่เข้าใจว่าบอร์ดบริหารของอินเทลสามารถปล่อยให้การเติบโตอย่างเชื่องช้าเช่นนี้เกิดขึ้นได้ ที่น่าตลกกว่านั้นคือบริษัทกลับยินดีที่จะจ่ายเงินเดือนให้กับบุคลากรเหล่านี้ที่ไม่ทำอะไรเพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทต้องการที่จะเติบโตไปในโลกที่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้นำแห่งวงการได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้”

เราไม่ประหลาดใจเลยที่ได้เห็นความโกรธเกรี้ยวของผู้ถือหุ้นในจดหมายฉบับนี้เพราะราคาหุ้นของอินเทลในปีที่แล้วสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ชื่อว่าเติบโตมากที่สุดจากวิกฤตโควิด-19 แต่การเติบโตในรอบ 12 เดือนล่าสุดของหุ้นอินเทลกลับปรับตัวลดลงประมาณ 17% ในขณะที่หุ้นบริษัทอื่นๆ อย่างเอเอ็มดีหรือเอ็นวีเดียเติบโตขึ้นมากกว่าสองเท่า

Intel Weekly Chart.

กลยุทธ์ทางเลือกอื่นของอินเทล

ในจดหมายฉบับนั้น ผู้เขียนยังได้แนะนำอินเทลด้วยว่าควรจะจ้างธนาคารเพื่อการลงทุนสักแห่งมาประเมินกลยุทธ์ทางเลือกให้กับบริษัทและให้ผู้เชี่ยวชาญนั้นประเมินว่าบริษัทควรควบรวมบริษัทที่มีความสามารถในการพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบันดีหรือไม่ นอกจากนี้เขายังแนะนำว่าอินเทลควรที่จะผลิตสินค้าที่เน้นให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ารายใหญ่อย่างเช่นอะเมซอน (NASDAQ:AMZN) หรือแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ที่ปีที่แล้วตัดสินใจทิ้งอินเทลและหันไปพัฒนาชิปคอมพิวเตอร์ของตัวเอง

นักลงทุนระยะยาวที่สนใจจะซื้อหุ้นอินเทลในตอนนี้เพราะเห็นว่าถูกควรจะพิจารณาคำถามข้อหนึ่งให้ดีว่า “ปีนี้จะเป็นปีที่ดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิมสำหรับอินเทล?” สำนักข่าวรอยเตอร์มีรายงานว่านายบ็อบ สแวน CEO ของอินเทลทราบดีถึงความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในปี 2021 และเขาก็ต้องการให้ทีมงานสามารถออกแบบชิปคอมพิวเตอร์ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่านี้  ที่สำคัญอินเทลจะมีการประกาศผลการตัดสินใจว่าจะจ้างทีมผู้พัฒนาจากนอกบริษัท (outsource) มาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะวางขายในปี 2023 หรือไม่ในเดือนนี้

อันที่จริงในไตรมาสที่ผ่านมา อินเทลก็มีความเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาทราบดีว่าผลิตภัณฑ์ที่มีตอนนี้ไม่สามารถสู้คู่แข่งได้ ดังนั้นบริษัทจึงได้ประกาศขายบริษัทผู้ผลิตชิปฯ สัญชาติเกาหลีใต้นาม “เอสเค ไฮนิกส์” ออกไปในมูลค่า $9,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปี 2020 ถือเป็นปีที่ความต้องการชิปคอมพิวเตอร์เพื่อทำศูนย์กลางข้อมูลเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งสะท้อนออกมาผ่านรายงานผลประกอบการที่ยังสามารถปิดเป็นบวกได้ในสามไตรมาสล่าสุด แต่หากอินเทลยังไม่ตัดสินใจเดินหน้าอย่างจริงจัง ปีนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนปีที่แล้วก็เป็นได้

โดยสรุปแล้ว

นักวิเคราะห์บางคนอาจจะมองหุ้นอินเทลด้วยมุมมองที่มีอคติมากเกินไป ในความเห็นของเราแล้วอินเทลมีช่วงเวลาที่ยากลำบากก็จริง แต่ด้วยความยิ่งใหญ่ของบริษัท เราเชื่อว่าอินเทลจะยังไม่สามารถถูกแทนที่ได้ง่ายๆ การตำหนิตรงๆ ของนักลงทุนมีแต่จะทำให้อินเทลรู้ว่าจุดใดควรแก้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองเให้พร้อมรับมือกับอนาคตในปี 2021 นี้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย