- การเลือกตั้งของรัฐจอร์เจียในวันพรุ่งนี้จะเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดลงทุน
- การแจกจ่ายวัคซีนเป็นไปด้วยความล่าช้าในขณะที่ไวรัสสามารถแพร่เร็วขึ้น
หากจะเรียกว่าปี 2021 คือภาคต่อของปี 2020 ก็คงจะไม่ผิดนักเพราะประเด็นที่นักลงทุนจะจับตามองเป็นอย่างมากในสัปดาห์แรกแห่งการลงทุนก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมนั่นก็คือความเร็วในการกระจายวัคซีนแข่งกับความเร็วในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ได้ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกมีตัวเลขรวมแล้วทั้งสิ้น 86,600,000 รายในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมีตัวเลขมากกว่า 1,800,000 คนและยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเรื่อยๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ความสนใจของนักลงทุนจะพุ่งไปอยู่ที่วันอังคารที่ 5 มกราคม ที่จะมีการเลือกตั้งพิเศษในรัฐจอร์เจียซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าเดโมแครตจะได้สภาสูงไปครอง และได้ปกครองสหรัฐฯ แบบเบ็ดเสร็จหรือไม่
ปีใหม่ภายใต้ปัจจัยความเสี่ยงเดิม
ดัชนี S&P 500 สามารถวิ่งขึ้นทำราคาปิดที่จุดสูงสุดตลอดกาลได้เมื่อวันพฤหัสบดีของสัปดาห์สุดท้ายแห่งปี 2020 ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองที่อนุมัติโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก่อนขึ้นปีใหม่ นอกจาก S&P 500 แล้ว ข่าวดีดังกล่าวยังช่วยให้ดัชนีหลักอื่นๆ อย่างดาวโจนส์ แนสแด็ก และรัสเซล 2000 ปรับตัวขึ้นตามด้วยเช่นกัน
ถึงสัปดาห์นี้จะมีโอกาสที่ความผันผวนจะเกิดขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วเราเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงสามารถรักษาขาขึ้นเอาไว้ได้ ยิ่งถ้าวัคซีนที่ออกมาแล้วสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าคือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อย่างแท้จริง เราจะได้เห็นภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแน่นอน แต่คำถามสำคัญที่ไม่มีใครตอบได้จนถึงตอนนี้ก็คือ “เมื่อไหร่?”
เทียบกับการสันนิษฐานแล้ว การปักใจเชื่อของนักลงทุนในตลาดกับข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงแล้วทำได้ง่ายกว่า นิวยอร์กตอนนี้กลายเป็นรัฐที่สี่ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิดเกิน 1 ล้านคนแล้ว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาล่าสุดมีตัวเลขอยู่ที่ 20,400,000 คน มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 350,000 ราย ที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือการแจกจ่ายวัคซีนในสหรัฐฯ ไม่เป็นระบบชัดเจน ทำให้ความหวังที่ประเทศจะสามารถฟื้นตัวจากโควิดได้อาจจะต้องล่าช้าไปมากกว่าที่คาดการณ์อีกในปีนี้ ถึงอย่างไรก็ตามนิตยสาร Wall Street Journal ก็ยังยกให้ปีที่แล้วคือหนึ่งในขาขึ้นที่ดีที่สุดของดัชนีหลักๆ
“ดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ สามารถปิดปี 2020 บนขาขึ้นสูงสุดตลอดกาลได้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งปี 7.2% เอสแอนด์พีกระโดดขึ้น 16% รัสเซล 2000 18% และแนสแด็กทะยานขึ้น 44%”
นอกจากสถานการณการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่น่าจะเป็นธีมหลักอีกหนึ่งธีมสำหรับปีนี้คือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนภายใต้การบริหารของผู้นำคนใหม่ โจ ไบเดน ที่จะขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมหรืออีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ในวันสุดท้ายของการลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีได้ปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน ถึงกระนั้นสถานการณ์ก็ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนักตราบใดที่การปรับฐานรูปธงยังเกิดขึ้นในกรอบราคาขาขึ้น
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2018 จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วยังไม่สามารถบอกได้ว่านี่คือการกลับมาของขาขึ้นแล้วตราบใดที่กราฟยังไม่สามารถขึ้นทะลุกรอบแนวโน้มขาลง
ทองคำปะทะแนวต้านที่กรอบราคาขาลงที่มีแนวต้านหนุนอีกด่านจากเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน
ราชาแห่งสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์ยังรื่นเริงจากขาขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้วด้วยสถิติขาขึ้นเจ็ดวันติดต่อกัน สร้างสุดสูงสุดตลอดกาลใหม่เกือบทุกวันจนล่าสุดเหรียญบิตคอยน์มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ $34,200 ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันดิบจะยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคา $50 ต่อบาร์เรลได้และยังปิดสัปดาห์สุดท้ายด้วยการตัดเทรนไลน์ขาขึ้นลงมา นอกจากนี้อินดิเคเตอร์ หลักทั้งสามอย่าง MACD, RSI และ ROC ต่างก็ส่งสัญญาณของขาลงออกมาแล้ว
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EST)
วันอาทิตย์
20:45 (ประเทศจีน) ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากมหาลัยไซซิน: คาดว่าจะลดลงจาก 54.9 เป็น 54.8
วันจันทร์
03:55 (เยอรมัน) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 58.6
04:30 (สหราชอาณาจักร) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 57.3
วันอังคาร
03:55 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -39K เป็น 10K
10:00 (สหรัฐฯ) ดัชนี PMI ภาคการผลิตโดย ISM: คาดว่าจะลดลงจาก 57.5 เหลือ 56.5
วันพุธ
04:30 (สหราชอาณาจักร) ดัชนี PMI ภาคบริการ: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 49.9
08:15 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP: คาดว่าจะลดลงจาก 307K เหลือ 159K
09:00 (สหราชอาณาจักร) แถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษนายแอนดรูว์ ไบลีย์
14:00 (สหรัฐฯ) รายงานผลการประชุมจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC)
วันพฤหัสบดี
04:30 (สหราชอาณาจักร) ดัชนี PMI ภาคการก่อสร้าง: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 54.7 เป็น 55.0
05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -0.3% เป็น -0.2%
07:30 (ยูโรโซน) แถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน
08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 787K เป็น 833K
10:00 (แคนาดา) ดัชนี PMI จากสถาบัน IVEY: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 52.7 เป็น 54.7
วันศุกร์
08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร: คาดว่าจะลงจาก 245K เป็น 100K
08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.7% เป็น 6.8%
08:30 (แคนาดา) รายงานตัวเลขอัตราการจ้างงาน: คาดว่าจะลดลงจาก 62.1K เป็น -5.0K