รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สรุป 4 เหตุการณ์ที่น่าสนใจในตลาดหุ้นไทย

เผยแพร่ 25/12/2563 08:44
อัพเดท 09/07/2566 17:32
[UPDATE] สรุป 4 เหตุการณ์ที่น่าสนใจมากกก ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่นักลงทุนควรทราบ !
วันนี้ถือเป็นวันที่ตลาดหุ้นไทยถือว่าคึกคักมากๆ มีเรื่องให้ตื่นเต้นตลอดทั้งวัน ไม่ทราบว่าทุกคนคิดว่าเหตุการณ์ไหนน่าทึ่งที่สุดครับ ?
ระหว่าง
1.ดัชนีหุ้นไทย SET เด้ง 35 จุดกลับไปปิดเหนือ 1,450 จุดได้อีกครั้งหลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่อง Lock Down ทั่วประเทศ
2.หุ้น DELTA ยังคงพุ่งไม่ยั้ง +27.6% ทำสถิติ All Time High ใหม่และขึ้นเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในตลาดหลักทรัพย์ไทย !
3.หุ้น KEX (Kerry Exress) เปิด IPO วันแรกดีด +160% ทันทีตั้งแต่เปิดตลาด !
4. BTS ไม่น้อยหน้า เข้าซื้อหุ้น AFTER YOU ล็อตใหญ่กว่า 660 ล้านบาท !
สรุปทั้ง 4 เหตุการณ์ดังนี้
หุ้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (BK:DELTA) พุ่ง +27.6% ขึ้นเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในตลาดหลักทรัพย์ไทย !
ถ้ามีใครบอกคุณเมื่อ 6 เดือนก่อนว่าบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน (DELTA) จะกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่สุดอันดับ 3 ในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) และใหญ่กว่าบริษัทอย่าง AIS, CP All, PTTEP, BDMS, SCB หรือ K-Bank คุณคงจะต้องไม่เชื่อแน่ๆ
แต่ถ้าเพื่อนคนไหนของคุณเคยพูดไว้ ก็คงต้องกลับไปขอข้อมูลเขาเพิ่มอีกแล้วล่ะครับ (แล้วขอเบอร์ให้แอดด้วย) เพราะวันนี้ด้วยราคาปิดที่ 536 บาท ทำให้บริษัท Delta ผู้ผลิตอิเล็กโทรนิกส์สัญชาติไต้หวันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 6.67 แสนล้านบาท ! หรือมีมูลค่ามากกว่าบริษัทต่างๆที่ผมกล่าวมาเมื่อกี้ทั้งหมดเสียอีก ! มีเหลือเพียงแค่บริษัท PTT (BK:PTT) และ AOT (BK:AOT) ที่มีมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท และ 8.8 แสนล้านบาทตามลำดับที่ยังมีมูลค่าสูงกว่าบริษัท Delta อยู่
สาเหตุที่ทำให้มูลค่าหุ้นพุ่งขึ้นเกิน 10 เท่าในเวลาเพียง 6 เดือน จาก 50 บาทเมื่อกลางปีกลายเป็น 536 บาทนั้น ทางตลาดเชื่อว่าเป็นเพราะทางบริษัทได้ประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจจัดเก็บข้อมูล (Cloud) รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่กำลังเป็นตลาดที่ร้อนแรงด้วย
หุ้น Kerry Express Thailand PCL (BK:KEX) เปิด IPO วันแรกดีด +160% ทันทีตั้งแต่เปิดตลาด ! แต่ย่อลงมาปิดที่ 51.25 บาทหรือ +83%
วันนี้ข่าวแรกที่ได้ยินของวันตั้งแต่เปิดตลาดคือบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ที่ออกเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 28 บาทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก ราคาพุ่งกระโดดไป 73 บาททันที !
Kerry Express บริษัทขนส่งพัสดุจากฮ่องกงคงเป็นบริษัทที่คนไทยคุ้นเคยกัน และด้วยความต้องการจองซื้อหุ้นจากนักลงทุนในไทยและต่างประเทศอย่างล้นหลาม คงทำให้ไม่มีใครไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นในวันเปิดการซื้อขายวันแรก #แต่... มีใครคิดไว้บ้างไหมครับที่ราคาหุ้นจะเปิดตัวได้ร้อนแรงโดยเด้งเกือบ 3 เท่าจากราคาเปิดทันที ?
อย่างไรก็ตามราคาหุ้น Kerry ที่ย่อตัวลงจากจุดสูงสุดตลอดทั้งวัน จนปิดตลาดที่ 51.25 บาทนั้น ทำให้คำถามที่เป็นที่ถามกันมากที่สุดคือ จะทำให้นักลงทุนติดดอยกันหรือไม่ ?
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (BK:BTS) เข้าซื้อหุ้น After You Public Co Ltd (BK:AUm) ล็อตใหญ่กว่า 660 ล้านบาท !
อีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่มาช่วงกลางวันของวันนี้คือ บริษัท AFTER YOU (AU) ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าทางบริษัทได้ทำการขายหุ้นล็อตใหญ่ที่ 66 ล้านหุ้น (ประมาณ 8.1% ของบริษัทโดยรวม) เป็นมูลค่า 660 ล้านบาทให้กับบริษัท BTS
โดยทางเหตุผลที่ทั้งสองตกลงทำดีลยักษ์ใหญ่นี้ก็เพราะว่าทั้งคู่มองเห็นโอกาสในการผนึกกำลังกันขยาย Franchise ร้านขนมหวานร่วมกัน เชื่อว่าอาจจะมีการเปิดสาขาเพิ่มตามแนวรถไฟฟ้า BTS และหลังจากที่ตลาดรับรู้ข่าวดังกล่าวก็ทำให้หุ้น AFTER YOU (AU) พุ่งขึ้นทันที +8%
ทุกท่านเชื่อว่าการผนึกกำลังกันในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ดัชนีหุ้นไทย SET เด้ง 35 จุดกลับไปปิดเหนือ 1,450 จุดได้อีกครั้งหลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่อง Lock Down ทั่วประเทศ
ขอปิดท้ายด้วยภาพรวมของตลาดนะครับ ดัชนี SET โดนกดดันตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาจากข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ และนักลงทุนกำลังจับตามองว่ารัฐบาลจะประกาศสั่งทำการ Lock Down ทั่วประเทศหรือไม่ ?
แต่สุดท้ายหลังมีสรุปในที่ประชุม ศบค. ได้อนุญาตให้มีการประกาศล็อคดาวน์ตามความเหมาะเท่านั้น (หากจำเป็น) และเบื้องต้นจะงดจัดงานปีใหม่จนกว่ารอประเมินอีก 7 วันข้างหน้า
ข่าวนี้ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลและเข้ามาช้อนซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง โดยแรงซื้อหลักๆในวันนี้มาจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ
ทางเทคนิคนั้น ระดับ 1,450 จุดจะเป็นแนวต้านที่ทาง SET ต้องทดสอบว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ และหลักๆนักลงทุนคงยังต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศในแต่ละวันว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยแค่ไหน
สิ่งที่อยากแนะนำนักลงทุนทุกท่าน จากเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้คือ
1.Delta อาจจะเป็นเพียงไม่กี่หุ้นเทคโนโลยีในประเทศไทย แต่ไม่ต้องรุมกันซื้อ เพราะในต่างประเทศนั้นยังมีบริษัทหุ้นเทคอีกมากมายให้นักลงทุนไทยสามารถเลือกซื้อได้
2. Kerry นั้นเป็นบริษัทที่น่าสนใจ แต่ไม่ต้องรุมซื้อกันตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดก็ได้ ตลาดหุ้นต่างประเทศมีหุ้นใหม่ๆที่พร้อมจะเข้าตลาด IPO มาให้นักลงทุนไทยเข้าซื้ออยู่เรื่อยๆตลอด
3. ตลาดหุ้นไทยนั้นเป็น Momentum Play หรือ ขึ้นลงตามกระแสข่าวของตลาด เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่า Growth หรือการเติบโตของหุ้นในประเทศของเรายังน้อย ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาเล่นส่วนใหญ่เป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น ที่คอยซื้อและขายตามกระแสของข่าวและเล่นตามกราฟเทคนิค เพราะ Growth ระยะยาวนั้นยังหายาก
หากเราไม่ได้อยู่หน้าจอตลอด หรือ ติดตามทุกข่าวสารอย่างใกล้ชิด ก็อาจจะขาดทุนได้
แต่ในตลาดหุ้นต่างประเทศ นั้นยังมีหุ้นที่กำลังมีเทรนด์การเติบโตสูงอยู่หลายตัว มีกองทุนต่างๆที่คอยกระจายความเสี่ยงให้เรามากกว่าการถือหุ้นรายตัว และมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารสัดส่วนความเสี่ยงให้เราอยู่เสมอ ทางเพจจึงอยากเชิญชวนให้นักลงทุนในประเทศไทย ลองกระจายความเสี่ยงไปสู่หุ้นต่างประเทศดูบ้าง อาจจะเริ่มจากทีละน้อย
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย