ในวันอังคารที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการประชุมสำคัญของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีข้อมูลหรือข่าวสำคัญใดๆ ประกาศออกมาจากการประชุมดังกล่าว นั่นทำให้ทิศทางของราคาน้ำมันยังคงไม่มีอะไรแน่นอนไปจนกระทั่งถึงงานประชุมใหญ่ของกลุ่มโอเปก (OPEC) และโอเปกพลัสในวันที่ 30 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคม
สิ่งที่สามารถอ้างอิงจากกลุ่มประเทศผู้ผลิต และส่งออกน้ำมันล่าสุดในตอนนี้คือแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากกลุ่มโอเปกพลัสว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 2 ล้านบาร์เรลเข้ามาในตลาดในวันที่ 1 มกราคมปี 2021 อย่างไรก็ตามสมาชิกหลายประเทศซึ่งรวมถึงซาอุดิอาระเบียกำลังพยายามหาหนทางขอเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตนี้ออกไปอีกอย่างน้อย 3-6 เดือนข้างหน้า
แน่นอนว่าผลการตัดสินใจในเรื่องนี้ไม่ว่าจะลดหรือเพิ่มกำลังการผลิตย่อมส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบและเพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่อาจจะสร้างความผันผวนให้กับราคาน้ำมันในสัปดาห์หน้า ดังนั้นเราจึงคัด 6 เรื่องหลักๆ ที่นักลงทุนในน้ำมันควรรู้สำหรับตอนนี้
1. เหตุผลหลักที่ต้องเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตนี้ออกไปมีสาเหตุเดียวคือเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบในเชิงลบกับราคาน้ำมัน
ตอนนี้ภาพรวมอุปสงค์น้ำมันดิบในยุโรป และสหรัฐอเมริกานั้นแย่มาก การล็อกดาวน์ในยุโรป และการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง และความต้องการใช้น้ำมัน นับตั้งแต่ข่าวดีเรื่องวัคซีนโควิดจากไฟเซอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาจนถึงตอนนี้ราคาน้ำมันดิบก็ไม่ได้ปรับตัวขึ้นอีกเลย ด้วยเหตุนี้ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มโอเปกจึงเป็นกังวลมากว่าถ้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมาอีก 2 ล้านบาร์เรลในตอนนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบตกต่ำลงไปอีก
2. สิ่งที่นักลงทุนควรคำนึงถึงหากกลุ่มโอเปกพลัสยอมเลื่อนเวลาเพิ่มกำลังการผลิตออกไป?
มีอยู่สองคำถามที่ควรตั้ง หนึ่งคือการเลื่อนระยะเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วง 3 ถึง 6 เดือนหลังจากเดือนมกราคมหรือไม่? และสองคือหากเลื่อนเวลาการเพิ่มกำลังการผลิตแล้วจริง วิธีนี้จะยังสามารถช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงได้จริงหรือ?
3. อิทธิพลของรัสเซียค่อนข้างมีสูงในระดับพอๆ กับซาอุดิอาระเบีย ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้รัสเซียจึงยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางการประชุม
ครั้งนี้รัสเซียมีโอกาสที่จะเห็นด้วยกับการลดกำลังการผลิตอีก 2 ล้านบาร์เรลแต่ในแง่ของระยะเวลาในการลดยังไม่มีใครรู้ว่ารัสเซียจะยอมให้เลื่อนได้มากน้อยแค่ไหน ในความเห็นของเรา ซาอุดิอาระเบียอาจจะอยากให้รัสเซียเห็นด้วยกับการเลื่อนไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อที่ซาอุดิอาระเบียจะได้สามารถกดประเทศสมาชิกที่เหลือให้อยู่ภายใต้การควบคุมหากแอบเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมา
แต่เพราะความเป็นจริงซาอุดิอาระเบียก็ยังมองไม่ออกว่ารัสเซียจะต้องการให้เลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตไปอีกนานแค่ไหน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียถึงได้ให้ข่าวว่า
“ปัจจัยความไม่แน่นอนในการเลื่อนเวลาการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันยังต้องดูกันไปแบบวันต่อวันและยังไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าควรออกนโยบายอย่างไรต่อไป”
4. ยิ่งยืดระยะเวลาการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปได้ไกลมากเท่าไหร่ จะยิ่งส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตลาดน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น
หากทำเช่นนี้ได้จริงจะเป็นการส่งผลดีต่อฝั่งผู้ผลิตมากกว่าเพราะความต้องการน้ำมันยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไว้ใจไม่ได้ ในระยะยาวโอเปก+ ไม่สามารถออกนโยบายที่จะยกราคาน้ำมันให้สูงขึ้นได้ ดังนั้นการรักษาเสถียรภาพเอาไว้ก่อนจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับทุกฝ่ายมากที่สุด
5. การกลับมาของลิเบียจะทำให้โอเปกพลัสต้องพิจารณาทางเลือกให้ดี
หลังจากสามารถจัดการเรื่องความขัดแย้งภายในประเทศได้ ตอนนี้ลิเบียจึงได้สิทธิพิเศษจากกลุ่มโอเปกพลัสในการผลิตน้ำมัน ข้อยกเว้นของลิเบียนี้จะสิ้นสุดลงหลังจากสามารถผลิตน้ำมันได้ถึง 1.114 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการคาดการณ์ของหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในลิเบียได้ประเมินออกมาว่าอีกไม่นานก็จะถึงโควตาการผลิตดังกล่าวแล้ว
นักวิเคราะห์ประเมินว่าการผลิตน้ำมันของลิเบียจะสามารถแตะ 1.3 ล้านบาร์เรลได้ภายในช่วงต้นปี 2021 ดังนั้นโอเปกพลัสจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเลือกผลิตน้ำมันเพิ่มอีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือเลื่อนเวลาเพิ่มกำลังการผลิตออกไป เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน ทางกลุ่มก็ต้องรับจำนวนการผลิตน้ำมันของลิเบียเข้ามาด้วยอย่างน้อยก็เกินครึ่งของที่ลิเบียสามารถผลิตได้
- หากโอเปกพลัสเลือกที่จะเลื่อนเวลาเพิ่มกำลังการผลิตออกไปอีก 3 เดือน พวกเขาอาจจะทันพิจารณาสถานการณ์ของลิเบียได้อีกทีในเดือนมีนาคมปี 2021
- หากโอเปกพลัสเลือกที่จะเลื่อนเวลาเพิ่มกำลังการผลิตออกไปอีก 6 เดือน พวกเขาอาจจำเป็นต้องมีการเจรจากับลิเบียเป็นเศษหลังจากผ่านปีใหม่ 2021 ไปแล้ว
6. สถานการณ์ใดที่จะปลอดภัยสำหรับนักลงทุนมากที่สุด
สำหรับตอนนี้ นักลงทุนในตลาดอาจจะคิดว่าการเลื่อนกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 3 เดือนคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มโอเปกพลัส แต่หากในการประชุมที่กำลังจะถึงนี้ กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจไม่ทำตามนี้และเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 เป็นต้นไป ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลง หากตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไป 6 เดือน ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวสูงขึ้นแต่อาจไม่ได้ขึ้นมากจนมีนัยสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินสถานการณ์น้ำมันดิบทั่วโลกในปัจจุบัน การเลือกที่จะเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปอีก 6 เดือนดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและอาจจะช่วยลดความผันผวนในตลาดน้ำมันดิบในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ด้วย