สัปดาห์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวเศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะในภาคการบริการ หลังหลายประเทศเจอการระบาดของ COVID-19 ระลอก 2 ที่รุนแรงขึ้น
ลุ้นรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 3 ทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ โดยตลาดจะกล้าเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) หากผลกำไรในไตรมาสที่ 3 ดีกว่าคาดและมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
เงินดอลลาร์อาจดูไม่น่าสนใจเมื่อตลาดเปิดรับความเสี่ยง ทั้งนี้ ควรระวังความเสี่ยงการเมืองไทย ที่อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง โดยเราเชื่อว่าเงินบาทสามารถอ่อนค่าแตะ 31.40-31.50 บาท/ดอลลาร์ ได้ไม่ยาก หากสถานการณ์การประท้วงบานปลายและมีภาพความรุนแรงเกิดขึ้น
กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 31.00-31.50 บาท/ดอลลาร์
มุมมองนโยบายการเงิน
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสฯ เราคาดว่าจะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Rate) ที่ระดับ -0.50% แต่เราเชื่อว่า ECB จะส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น หากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทวีความรุนแรงจนกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจยูโรโซน
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสฯ เราคาดว่าจะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Balance Rate) ที่ระดับ -0.10% และคงเป้าหมายของยีลด์พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10ปี ที่ 0.00% ทั้งนี้ เรามองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชน เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
ฝั่งสหรัฐฯ – ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐฯ ทั้งประเด็นการเลือกตั้งและการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มเทคฯ อย่าง กลุ่ม FAANG เช่น Facebook, Apple (NASDAQ:AAPL) และ Amazon เป็นต้น ว่าผลกำไรจะโตได้ดีขึ้น สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่จะพลิกกลับมาขยายตัวถึง 32% จากไตรมาสก่อนหน้า ได้หรือไม่
ฝั่งยุโรป – ปัญหาการระบาด COVID-19 ระลอก 2 จะกดดันแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจยูโรโซน แม้ว่าในไตรมาส 3 เศรษฐกิจจะหดตัวเพียง 7% จากปีก่อนหน้า ซึ่งดีขึ้นจากที่หดตัวเกือบ 15% ในไตรมาส 2 หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นดัชนีชี้นำ อย่าง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Services PMI) ล้วนแย่ลง เช่นเดียวกับ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (IFO Business Climate) เดือนตุลาคมก็จะลดลงเหลือ 93.0จุด จาก 93.4จุดในเดือนก่อน
ฝั่งเอเชีย – ภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มสดใส โดยตลาดคาดว่าการฟื้นตัวของการค้าโลกที่นำโดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวดีขึ้น โดยหดตัวเหลือ 1.9%จากปีก่อนหน้า ในไตรมาสที่ 3 ดีขึ้นจากที่หดตัวเกือบ 3% ในไตรมาส 2 ส่วนในฝั่งจีน การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจะทำให้กำไรของภาคอุตสาหกรรม (Industrial Profits) ในจีนโตได้ราว 10% จากปีก่อนหน้า