ราคาทองคํา ช่วงเช้าวันนี้ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดที่บริเวณ 1,936.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้น โดยปัจจัยกดดันราคาทองคํามาจาก US Dollar Index ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 93.46 จุด ปรับตัวขึ้นราว 0.26% จากเมื่อวานนี้ หลังเฟดปรับ “เพิ่ม” คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ โดยมองว่า GDP ปีนี้จะหดตัวลดลงเหลือ-3.7% จากระดับ -6.5% ในการคาดการณ์เดือนมิ.ย. พร้อมปรับ “ลด” คาดการณ์อัตราการว่างงานในปีนี้ถึงปี 2022 ลงสู่ระดับ 7.6%, 5.5% และ 4.5% จาก ระดับ 9.3% 6.5% และ 5.5% รวมถึงปรับ “เพิ่ม” คาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ถึงปี 2022 ขึ้นสู่ระดับ 1.2%, 1.7% และ 1.8% ตามลําดับ ทําให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงสั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มดอกเบี้ยที่คาดว่าเฟดจะตรึงไว้ในระดับต่ำ 0.00-0.25% ต่อไปถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อย จึงช่วยพยุงราคาทองคําไว้ ประกอบกับความเสี่ยงทั้งการเมืองระหว่างประเทศ และทางเศรษฐกิจในระยะถัดไปยังคงมีอยู่จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 ทําให้การ ลงทุนในตลาดทองคํายังคงน่าสนใจ ซึ่งอาจทําให้ราคาทองคําร่วงลงในระดับจํากัด จึงแนะนําติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐหลายรายการ อาทิ จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Initial jobless claim), ผลสํารวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การอนุญาตก่อสร้าง และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน เพื่อชี้นําดอลลาร์ และราคาทองคําเพิ่มเติม
แนวโน้ม Gold Spot XAU/USD : หากราคาทองคําทดสอบแนวต้านที่ 1,960-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้ายังไม่สามารถผ่านได้ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทํากําไรเนื่องจาก ช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคํามีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,936 ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน: ดูบริเวณ 1,936 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกําไร ระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น เพื่อขายทํากําไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนว ต้าน 1,960-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ รอเข้าซื้อที่แนวรับถัดไปบริเวณแนว 1,919-1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน หากหลุด 1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION