ถึงแม้จะเป็นการปรับการคาดการณ์จากลบเยอะมาเป็นลบน้อยลง แต่การเปลี่ยนการคาดการณ์ครั้งนี้นั้น #ยังถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก
โดยเฉลี่ยแล้ว GDP โลกจะโตปีละ 2.5% - 3.0% แสดงว่าการปรับขึ้นของการคาดการณ์จาก OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) ในครั้งนี้ถือว่ามอง GDP โลกจะดีขึ้นกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนนั้น จะช่วยประหยัดเวลาในการฟื้นฟูของเศรษฐกิจไปมากกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว
หรือหากจากมองจากมุมของมูลค่าหรือผลผลิตรวมที่โลกสามารถสร้างเพิ่มขึ้นได้นั้น จะมีมูลค่ามากถึง 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (ด้วย GDP โลกที่ 140 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี x 1.5%) ทำให้ข่าวนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีทีเดียว ไม่ว่ามูลค่าผลผลิตเพิ่มนั้นจะตกไปอยู่กับใครก็ตาม
#อย่างไรก็ตาม OECD ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การ GDP โลกในปีหน้าลงเล็กน้อย จะกลายเป็นขยายตัว +5% จากระดับ +5.2% ที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน #ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ และเข้าใจได้เพราะการฟื้นฟูจะกลับเข้ามาอยู่ในปีนี้แทน
โดยตัวเลขการฟื้นฟูเหล่านี้ก็ตรงกับที่ทางGoldman Sachs Group Inc (NYSE:GS) เคยออกมาวิเคราะห์ไว้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังไวรัสโควิดระบาดนั้นดีกว่าที่การคาดการณ์ของหลายสำนักที่คาดการณ์ไว้ในช่วงกลางปีอย่างมาก
ทำไม OECD ถึงมองว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ ?
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าที่คาดคือเหตุผลหลักๆที่ทาง OECD ปรับตัวเลขคาดการณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐที่อัตราการว่างงานลดลงมาต่ำกว่า 10% แล้ว และตัวเลขภาคการผลิตในจีนก็กลับมาเติบโตขึ้นได้แล้วในเดือนนี้ อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแสดงว่า #มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางทั่วโลกนั้นถือว่าได้ผลดี
อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นนั้นอยู่บนสมมติฐานที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจะไม่แย่จนถึงขั้นต้องเกิดการ Lock Down อีกรอบ
เศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวเร็วกว่าที่อื่นคือประเทศสหรัฐ จีนและยุโรป
ตามการคาดการณ์ล่าสุดนั้นประเทศในกลุ่ม G20 จะฟื้นตัวเร็วกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อน โดยจีนจะเป็นประเทศเดียวที่มี GDP ที่ยังเป็นบวกหรือโตขึ้นในปีนี้ (ตัวเลขของแต่ละประเทศแนบในคอมเม้นท์)
รายงานไม่ได้กล่าวไว้ว่าทำไมประเทศในกลุ่ม G20 ถึงได้รับการปรับตัวเลขการฟื้นฟูที่เร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้ แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากการที่ประเทศเหล่านี้น่าจะมีวัคซีนใช้ก่อนประเทศอื่นๆ
#ทันโลกกับTraderKP
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP