ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาจะทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดบริเวณ 1,972 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะยังคงจุดยืนผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปในการประชุมที่กำลังจะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้
ประกอบกับในระหว่างวันสกุลเงินยูโรแข็งค่าหลังการเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีจาก ZEW ออกมาดีเกินคาด จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์จนสร้างแรงหนุนให้แก่ราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ และปรับตัวลดลงแรงโดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจาก ดัชนีดอลลาร์ US Dollar Index ที่ดีดตัวขึ้นมาปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 93.050 หลังจากในระหว่างวัน อ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 92.785 จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุด สู่ระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,947 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านกองทุนถือครองทองคำลดลง -0.43 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ, ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยจาก NAHB และจับตาผลการประชุมเฟด คาดเฟด“คง” ดอกเบี้ยที่ 0.00-0.25% ตามเดิม แต่แนะนำจับตาสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต รวมถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และความชัดเจนของ “กรอบนโยบายเงินเฟ้อเฉลี่ย” ผ่านทางแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟด, Economic Projections (คาดการณ์ GDP, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ) และ Dot Plot(คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนได้
ราคาทองคำมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมา เมื่อเข้าใกล้กรอบแนวต้าน โซน 1,966-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้การเคลื่อนไหวในระยะกลางยังคงมีลักษณะ Sideway Down หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,941-1,936 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคามีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง แต่หากยืนเหนือแนวรับแรกไม่ได้ประเมินแนวรับถัดไปโซน 1,919-1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรจากการดีดตัวหากราคาอ่อนตัวลงในโซน 1,941-1,936 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พยายามลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยให้ขายทำกำไร หากราคาไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,966-1,973 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อัพเดตราคาทองคำ GOLD SPOT XAU/USD
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION