การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อนสุดสัปดาห์ที่แล้วสร้างความสงสัยให้กับนักลงทุนในตลาดว่านี่เป็นเพียงการย่อตัวตามวัฐจักรหุ้นทั่วไปหรือเป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์กันแน่ แต่ถึงความเห็นจะแตกออกเป็นสองเสียงแต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นตรงกันก็คือขาขึ้นสุขสันต์ในตลาดหุ้นอย่างที่เราเห็นกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนมาจนถึงสัปดาห์ที่แล้วจะเปลี่ยนไป
นักวางกลยุทธ์การลงทุนจากธนาคารการลงทุนชื่อดังเจพีมอร์แกนกล่าวว่า “แม้เศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือนแล้วทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่ไม่อาจคาดการณ์ได้เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วันที่ผ่านไป การเทขายของนักลงทุนในตลาด NASDAQ จะช่วยให้ตลาดฟื้นตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้แรงขาขึ้นที่เกิดมีมาก่อนหน้านี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัดยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา”
นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ที่นักลงทุนต้องระลึกใส่ใจเอาไว้สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้และอีกเช่นเคยที่เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องแนะนำ 3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์สำหรับการลงทุน
1. Tesla (NASDAQ:TSLA)
หุ้นเทสลา (NASDAQ:TSLA) ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงก่อนปิดตลาดซื้อขายเมื่อวันศุกร์จากข่าวร้ายที่ดัชนี S&P 500 ตัดสินใจยังไม่ลิสต์หุ้นเทสลาขึ้นดัชนีหลักของประเทศแม้ว่าตลอดทั้งปี 2020 หุ้นเทสลาจะทำผลงานขาขึ้น 400% จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกแล้วก็ตาม
นายอีลอน มัสก์ CEO คนเก่งของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคาดหวังเป็นอย่างสูงว่าหุ้นเทสลาจะสามารถมีชื่ออยู่บนดัชนี S&P 500 ได้เพราะตอนนี้หุ้นเทสลาก็สามารถทำกำไรได้ 4 ไตรมาสติดต่อกันซึ่งตรงตามเงื่อนไขการถูกลิสต์ขึ้นดัชนีดังๆ อย่าง S&P 500 และดาวโจนส์แล้ว แต่แทนที่จะเป็นเทสลากลับกลายเป็นว่าบริษัทเอสซี (NASDAQ:ETSY) เจ้าของเว็ปไซต์ขายของแฮนด์เมดออนไลน์ เทราไดน์ (NASDAQ:TER) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และคาตาเลนต์ (NYSE:CTLT) บริษัทยากลับมีชื่อยู่บน S&P 500 แทน
หลังจากที่ข่าวนี้เผยแพร่ออกไปในช่วงก่อนปิดตลาดซื้อขายเมื่อวันศุกร์หุ้นเทสลาก็ปรับตัวลดลง 8% ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนผิดหวังแค่ไหนกับข่าวที่ออกมาและสัปดาห์นี้ความร้อนแรงของเทสลาก็จะได้โอกาสปรับตัวเข้าสู่ความเป็นจริงตามมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทบ้าง ล่าสุดหุ้นเทสลามีราคาซื้อขายอยู่ที่ $330.02
2. Etsy (NASDAQ:ETSY)
เอสซี ETSY หรือตลาดซื้อขายของแฮนด์เมด (Handmade) ออนไลน์อาจกลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้่หลังจากหุ้นเอสซีถูกลิสต์ขึ้นดัชนีหลักของประเทศอย่าง S&P 500 ได้สำเร็จ หลังจากแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ของเอสซีที่เปิดตัวในปี 2005 และมีกำไรอยู่เพียง $1 ล้านเหรียญสหรัฐตอนนี้กำไรที่เอสซีสามารถทำได้ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วมีตัวเลขอยู่ที่ $5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยิ่งการการันตีจาก RBC Capital Markets ที่บอกว่า “เอสซีมีการเติบโตทางด้านผลกำไรและความมั่นคงอย่างก้าวกระโดด” ยิ่งทำให้หุ้นเอสซีมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาเอสซีได้พยายามอย่างหนักในการเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจจากชุมชนทางเลือกของผู้ที่ต้องการซื้อขายของแฮนด์เมดก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ในวงการซื้อขายออนไลน์ที่มีมูลค่าตลาดเกือบถึง $15,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีของขายอยู่บนแพลตฟอร์มมากถึง 65 ล้านชิ้น ล่าสุดหุ้นเอสซีมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $110.54 ตลอดทั้งปี 2020 ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 153%
3. Peloton (NASDAQ:PTON)
บริษัทสตาร์ทอัพฟิตเนสมาแรงผู้ส่งจักรยานออกกำลังกายไปถึงบ้านผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่าง “เพโลตอน” กำลังมีแผนที่จะลดต้นทุนจักรยานออกกำลังกายและลู่วิ่งของตนเองพร้อมทั้งวางกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อเพิ่มความต้องการออกกำลังกายของผู้คนให้มากขึ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าลู่วิ่งใหม่ของเพโลตอนที่มีชื่อว่า “Tread” จะมีราคาอยู่ที่ $3,000 เท่านั้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบันซึ่งมีราคาอยู่ที่ $4,295 ที่สำคัญ Tread จะมีลู่วิ่งที่เล็กลงและมีขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐานลู่วิ่งทั่วไปซึ่งทำให้ผู้ที่ออกกำลังกายรู้สึกคุ้นเคยมากกว่าลู่วิ่งในรุ่นปัจจุบันที่บริษัทใช้อยู่
ในปีนี้หุ้นของเพโลตอนสามารถเติบโตได้มากถึง 3 เท่าอันเป็นอานิสงส์จากโควิด-19 ที่ทำให้ยิมออกกำลังกายต้องปิดให้บริการชั่วคราว ในขณะที่ผู้คนต้องทำงานอยู่แต่บ้านของตนเองอยู่แล้วจึงทำให้พวกเขามีเวลาออกกำลังกายที่บ้านเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันหุ้นของเพโลตอนมีราคาอยู่ที่ $85.67 นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนประเมินว่าหุ้นเพโลตอนอาจสามารถขึ้นไปถึง $105 ได้ภายในเดือนธันวาคมปี 2021 สัปดาห์ที่แล้วนาย Doug Anmuth นักวิเคราะห์คนนี้ของเจพีพึ่งปรับเพิ่มตัวเลขประเมินยอดขายและผลประกอบการของเพโลตอนขึ้น