🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

กองทุนไหนได้ประโยชน์ หลังจาก Fed ปรับนโยบายเงินเฟ้อ

เผยแพร่ 01/09/2563 10:29
อัพเดท 09/07/2566 17:32
TSLA
-

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค.63โดยระบุว่ากรรมการ Fed ส่วนใหญ่มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงเผชิญ กับความไม่แน่นอนที่สูงมาก และคาดว่าทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะถัดไป จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อีกทั้งขึ้นอยู่กับว่าการ กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น จะสามารถทำได้เป็นวงกว้างและมีเสถียรภาพมากเพียงใด นอกจากนี้รายงานการประชุม Fed ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่ โดยระบุว่า "มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่มีความจำเป็นต่อการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีความจำเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง “ โดยในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00- 0.25% ต่อไป และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่ Fed มีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ จนกว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา

นอกจากนี้การ ประชุมประจำปีที่เมือง Jackson Hole ในวันที่ 27-28 ส.ค.2563 Jerome Powell ประธาน Fed กล่าวสุนทรพจน์โดยมีใจความสำคัญ คือการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดย Fed จะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อจากเดิมที่ระดับคงที่ที่ 2% เป็น "เป้าหมายเงิน เฟ้อเฉลี่ย" (Average Inflation) ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% เพื่อจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และ เศรษฐกิจสหรัฐฯ (Source: Infoquest)

Our view: เนื่องจาก Fed มีมุมมองที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำ หลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลกระทบกว้างต่อเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยรายงาน การประชุมของ Fed ในวันที่ 28-29 ก.ค.2563 ไม่ได้มีการระบุถึงการใช้มาตรการ Yield Curve Control เพิ่มเติม ดังนั้นในระยะถัดไปมีความเป็นไปได้ที่ผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรระยะ ยาวจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกลไกของตลาด (Yield และราคาของพันธบัตรจะเคลื่อนไหวตรงกันข้าม) ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน...แนะนำเพิ่มสัดส่วนในตราสารหนีร้ะยะสั้น และ ลดสัดส่วนใน ตราสารหนีร้ะยะยาว เนื่องจากตราสารหนี้ระยะสั้นมีInterest Rate Risk ต ่ากว่าระยะยาว

กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่แนะนำ คือ กองทุน SCBSFFPLUS-I ของบลจ. ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มีดูเรชั่นเฉลี่ยของพอร์ตไม่เกิน 1 ปี โดยกองทุนเน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลและเงินฝากรวมกันราว 75% และลงทุนในหุ้นกู้เอกชนราว25% เพื่อเพิ่มอัตรา ผลตอบแทน โดยลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุน (investment grade) เท่านั้น กองทุนมีการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศราว 40% และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตรา แลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

กองทุนรวมหุ้นที่แนะนำในสัปดาห์นี้คือ K-CHANGE-A(A) ของ บลจ.กสิกรไทย ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลก หรือ ธุรกิจที่จะเปลี่ยนโลก “ให้ดีขึ้น” ในระยะยาว อาทิ บริษัทพลังงานสะอาด บริษัทด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม บริษัทด้านการศึกษา บริษัทเกี่ยวกับ เทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นต้น ตัวอย่างบริษัทที่น่าสนใจคือ Dexcom ที่คิดค้นเทคโนโลยีในการ ตรวจเบาหวานที่มีความแม่นยำสูงโดยคนไข้ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด หรือบริษัท Tesla (NASDAQ:TSLA) ผู้ผลิต รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยมีสัดส่วนในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ตามลำดับ โดยกองทุนมีผลการดำเนินงานโดดเด่น 3 ปีย้อนหลัง +26.1% ต่อปีณ 30 มิ.ย. 2563 และได้รับ Morningstar 5 ดาว(Source: KAsset

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย