ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BK:BEM)
คาดกำไรสุทธิ2Q63 อ่อนตัว จากผลของมาตรการล็อกดาวน์
► บริษัทรายงานก าไรสุทธิ 2Q63 อยู่ที่ 152 ล้านบาท ลดลง 70%QoQ และ ลดลง 95%YoY ดีกว่าที่เรา และ Consensus คาด
► มาตรการล็อกดาวน์ใน 2Q63 กดดันสถิติสำคัญใน 2 ธุรกิจหลักอย่างมี นัยสำคัญ
► แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q63กลับมาแข็งแกร่ง หลังสถิติสำคัญในธุรกิจหลักฟื้นตัว จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
► BEM ยังคงเป็นหุ้นที่เราชอบ จากสถิติสำคัญของธุรกิจหลักเริ่มกลับมาฟื้นตัว และศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
► เรายังแนะนำ “ซื้อ”
บริษัทรายงานผลประกอบการ 2Q63 ดีกว่าที่คาด บริษัทรายงานกำไรสุทธิ2Q63อยู่ที่ 152 ล้านบาท ลดลง 70%QoQ และลดลง 95%YoY ดีกว่าที่เรา และ Consensusคาด อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 2Q63ลดลงจากผลของ การประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลาย มี.ค. ถึง เม.ย. 63 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งมาตรการ work from home ทำให้การเดินทางโดยระบบ ขนส่งมวลชนลดลง
ประกอบกับการให้ความร่วมมือยกเว้นค่าผ่านทางในวันดยุดราชการ ประจำปี จำนวน 5 วัน ในช่วง 2Q63 สถิติสำคัญในธุรกิจอ่อนตัวชัดเจนใน 2Q63 ปริมาณจราจรในธุรกิจทางพิเศษ และจำนวนผู้โดยสารในธุรกิจรถไฟฟ้า ลดลง (1) ธุรกิจทางพิเศษ มีปริมาณจราจรอยู่ที่ 8 แสนเที่ยวต่อวัน ลดลง 29%QoQ และ ลดลง 34%YoY ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.5 ล้านบาท ลดลง 31%QoQ และลดลง 37%YoY ทำให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจทางพิเศษอยู่ที่ 1,506 ล้าน บาท ลดลง 35%QoQ (2) ธุรกิจรถไฟฟ้า มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.33 แสนเที่ยว ลดลง 60%QoQ และลดลง 56%YoY ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.7 ล้านบาท ลดลง 58%QoQ และลดลง 52%YoY (อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 27.8 บาท ต่อเที่ยว เพิ่มขึ้น 4.4%QoQ และเพิ่มขึ้น 10.1%YoY) ทำให้บริษัทมีรายได้จาก ธุรกิจรถไฟฟ้าอยู่ที่ 815 ล้านบาท ลดลง 37%QoQ
สถิติสำคัญฟื้น หนุนผลประกอบการ 3Q63 เราคาดหมายจะเห็นผลประกอบการ 3Q63 กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยสถิติสำคัญของ 2 ธุรกิจหลักเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่ช่วง เดือน พ.ค. ส่งผลให้ปริมาณจราจร และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินปรับตัวเพิ่มขึ้น ชัดเจนตั้งแต่เดือน มิ.ย. และในเดือน ก.ค. บริษัทรายงานปริมาณจราจรอยู่ที่ 1.12 ล้าน เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.1%MoM โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 24.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5%MoM ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 2.5 แสนเที่ยว เพิ่มขึ้น 24.8%MoM โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4%MoM ซึ่งส่วยหนึ่ง เป็นผลมาจากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 5 รวมไปถึงการกลับมาเปิดภาคเรียน ใหม่ และ Work from Home ที่ลดลง
แนะนำซื้อ ยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว เรายังชอบ และเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มจากแนวโน้มผลประกอบการที่เริ่มกลับ เข้าสู่ปกติ ขณะที่ยังมีโอกาสในการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มจากการชนะประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้มตะวันออก ทำให้เรายังคงแนะนำ “ซื้อ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities