วัคซีนมีความคืบหน้าต่อเนื่อง มีการอนุมัติใช้งานในวงจำกัดไปแล้ว 2 ราย
จากข้อมูล Coronavirus Vaccine Trackerของ The New York Times ซึ่งอ้างอิงแหล่งที่มาจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO พบว่ามีวัคซีนCOVID-19 ที่อยู่ในขั้นการทดลองทั้งสิ้น 175 ชนิด โดยแบ่งเป็น 4ช่วงคือ (1) ทดสอบเบื้องต้น - เป็นการทดลองในสัตว์แต่ยังไม่มีการทดลองในคนราว 135 ชนิด (2) ทดลองในคนระยะ 1 - เป็นการทดลองในกลุ่มเล็กๆ เพื่อควบคุมความปลอดภัย และเรียนรู้การสร้างภูมิคุ้มกัน (3) ทดลองในคนระยะ 2 – เพิ่มกลุ่มคนเป็นหลักหลายร้อยคน และมีการกระจายกลุ่มอายุไปยังเด็กและผู้สูงวัย เพื่อทดสอบด้านความปลอดภัยในวงกว้าง (4) ทดลองในคนระยะที่ 3 - เพิ่มกลุ่มทดลองเป็นหลักพันคนเพื่อพิจารณาผลข้างเคียง ก่อนให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านอาหารและยาของแต่ละประเทศอนุมัติ
ผลจากการเร่งพัฒนาวัคซีนอย่างแพร่หลายในจีน สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมัน และรัสเซีย ทำให้เกิดการแข่งขันของหน่วยงานเอกชน เพื่อก้าวขึ้นป็นผู้นำในการผลิตวัคซีนที่จะสร้างรายได้อย่างมหาศาลในอนาคต ซึ่งล่าสุดสถาบัน Gamaleya ที่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขรัฐเซีย ได้รับการอนุมัติตามข้อกำหนดในการทดลองของรัสเซียเมื่อ 11 ส.ค. 63 แม้ว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน และยังไม่มีการรายงานผลทดสอบระยะ 2-3 ขณะที่ CanSino Biologics ของจีน ก็ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในวงจำกัดในกลุ่มทหารก่อนที่จะประกาศทดลองระยะ 3 เมื่อ 9 ส.ค. 63
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวัคซีนของจีนและรัสเซียยังห่างไกลต่อการช่วยบรรเทาผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก แต่อย่างน้อยก็ช่วยกระตุ้นบริษัทอื่นเร่งพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้เป็นการทั่วไปทันปีนี้ ซึ่งนอกจาก CanSinoที่เข้าสู่ระยะ 3 แล้ว ยังมี Moderna, BioNTech, CanSino Biologics, AstraZeneca, Sinopham, Sinovac Biotech, และMurdoch
ผลกระทบต่อ SET INDEX อาจบวกไม่มาก แต่จะเกิดการหมุนกลุ่มหุ้น
เราประเมินผลกระทบเป็นกลางเชิงบวกต่อ SET INDEX เพราะ (1) ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นรับความคาดหวังเชิงบวกในการพัฒนาวัคซีนไปแล้วระดับหนึ่ง (2) คาดว่าจะเกิดการหมุนกลุ่มหุ้น โดยเกิดแรงขายในหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก COVID-19 เช่น เกษตรอาหาร, ประกัน, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สินค้าไอที, วัสดุก่อสร้างเปลี่ยนเป็นกลุ่มหุ้นที่จะฟื้นตัวจากวัคซีน เช่น ท่องเที่ยว, ขนส่ง, แบงก์, มีเดีย (3) ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันด้วยประเด็นการเมือง
ท่องเที่ยว ขนส่ง แบงก์ เป็นหุ้นทางต่ำที่มีโอกาสฟื้นกลับเร็ว
เราสำรวจหุ้นใน SET100 พบว่ากลุ่มท่องเที่ยว ขนส่ง แบงก์ ศูนย์การค้า เป็น 4 กลุ่มที่มีโอกาสฟื้นกลับเร็วจาก Theme วัคซีน เพราะ (1) เป็นชุดหุ้นที่ถูก SBL มาก และ NVDR ขายลดน้ำหนัก จึงมีโอกาสเกิด Short Covering (2) ผลประกอบการช่วงที่เหลือของปียังสู้ปีก่อนไม่ได้ แต่ถ้าเทียบ QoQจะฟื้นเด่นทุกไตรมาส หลังผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้วใน 2Q63 (3) Valuation วัดจาก PER ยังยาก เพราะหลายบริษัทขาดทุน แต่ถ้าดูที่ PBV พบว่า อยู่ในกรอบ -1 ถึง -2 S.D. ของค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังหลายตัว (4) กลุ่มแบงก์จะได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวของ Bond Yield ทั่วโลก เราแนะนำ TRADINGใน MINT, ERW, AOT (BK:AOT), BEM, AAV, KBANK (BK:KBANK), SCB, CRC, MAJOR
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities