ภาพรวมการลงทุนวันนี้ – เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนในลักษณะ Sideway ต่อเนื่อง เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่สนับสนุนการลงทุน ขณะที่ความเสี่ยงกดดัน ตลาดหุ้นไทย ยังคงอยู่ที่ปัจจัยเดิมทั้งความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 ใน ต่างประเทศ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการประกาศผลประกอบการ 2Q63 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร การปรับ ครม. และทีม เศรษฐกิจใหม่ รวมถึงตัวเลขการส่งออกของไทย (22 ก.ค.) กลยุทธ์การลงทุน เราเลือก ลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic play และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
COVID-19 ยังมีความเสี่ยงกดดันการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังได้แรงกดดันจากความกังวลต่อปัญหาอุปทานที่จะปรับเพิ่มในเดือน ส.ค. หลัง OPEC+ มีมติลดกำลังผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (MBD) น้อยกว่ามติเดิม 2.0MBD แม้ OPEC+ จะให้เหตุผลว่าเริ่มเห็นการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันดิบ จากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ทั่วโลก อย่างไรก็ตามรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) และกลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประจำเดือนล่าสุด ระบุว่ายังมีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาด ของ COVID-19 จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปี 2563
ติดตามการประกาศงบการเงินกลุ่มสถาบันการเงินวันนี้ (20 ก.ค.) ได้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ (BK:SCB) ธนาคารกสิกรไทย (BK:KBANK)BBL BAY TCAP AEONTS
EARNINGS RESULTS: TISCO (ซื้อ; TP 107.00 บาท) - กำไรสุทธิ 2Q63 อยู่ที่ 1,333 ล้าน บาท ลดลง 10.1%QoQ และลดลง 25.9%YoY ต่ำกว่าที่เราและ Consensus ประเมินไว้ เป็นผลมาจาก (1) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้ง QoQ และ YoY และ (2) ค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิต ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่ 873 ล้านบาท ลดลง 16.8%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 534.7%YoY เป็นผลมาจากการค้านวณตามมาตรฐานบัญชีใหม่ และแนวโน้มการชะลอตัว ของเศรษฐกิจทำให้บริษัทเข้มงวดมากขึ้น
EARNINGS RESULTS: KTC (ซื้อ; TP 45.00 บาท) - บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q63 ที่ 1,149 ล้านบาท ลดลง 27.7%QoQ และ ลดลง 13.1%YoY มาจาก (1) ขาดทุนด้านเครดิตที่ คาดว่าจะเกิดขึ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,083 ล้านบาท (+59.3%QoQ, +33%YoY) เนื่องจากผลกระทบจากมาตรฐานทางบัญชีใหม่ (TFRS9) ส่งผลให้ NPL ของบริษัทปรับตัว ขึ้นมาอยู่ที่ 6.6% (1Q63 อยู่ที่ 4.0%) ประกอบกับความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันท้า ให้บริษัทท้าการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และ (2) รายได้ค่าธรรมเนียม 2Q63 อยู่ที่ 2,060 ล้าน บาท ลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ลดลง
มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,337 – 1,387 จุด ขณะที่วันนี เราคาดว่าจะอยู่ที่ 1,353 – 1,368 จุด (มีแนวรับอยู่ที่ 1,358 1,353 และ 1,346 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,363 1,368 และ 1,375 จุด) หุ้นแนะน้าทางเทคนิควันนี้ ได้แก่ CBG EA GFPT KCE และ BBL
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities