กำไรปกติทรงตัว QoQ แต่หนุมานช่วยหนุนเติบโต YoY
คาดรายได้ใน 2Q63 อยู่ที่ 4,346 ลบ. ลดลง 8.2%QoQ แม้จะเป็นช่วง High season ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ทำให้คำสั่งซื้อและราคาขายเฉลี่ยในหน่วยธุรกิจ B100 ฉะลอลง QoQ แต่เติบโต 20.2%YoY เนื่องจากมาตรการสนันสนุน B10 และ B20 ของภาครัฐทำให้ราคาขายเฉลี่ยของ B100 ปรับตัวขึ้น YoY และรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าโครงการหนุมาน โครงการ HNM 10 (80MW) ที่ COD ไปเมื่อกลางเดือน เม.ษ. 62 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 2Q63 อยู่ที่ 47.2% เพิ่มขึ้นจาก 43.6% ใน 1Q63 ด้วยค่าแสงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ดีขึ้น แต่ลดลงจาก 54.0% ใน 2Q62 เพราะสัดส่วนการขายจากหน่วยธุรกิจ B100 มากขึ้นซึ่งมีมาร์จิ้นน้อยกว่าหน่วยธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ส่วน SG&A คาดที่ 284 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากมีค่าใช้จ่าย R&D ของหน่วยธุรกิจใหม่ราว 38 ลบ. ใน 2Q62 ส่งผลให้กำไรปกติของ EA ใน 2Q63 คาดอยู่ที่ 1,350 ลบ. (-0.9%QoQ, +2.5%YoY) ซึ่งคิดเป็น 42% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563
3 หน่วยธุรกิจใหม่เตรียมเร่งเครื่องใน 2H20
แนวโน้มกำไรปกติใน 2H63 คาดจะเติบโต HoH ได้แรงหนุนจากเป็นช่วง High season ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมใน 3Q63 ซึ่งบริษัทมีกำลังผลิตที่มาจากพลังงานลม 386 MW (หรือคิดเป็นสัดส่วนที่ 58%) และเริ่มรับรู้รายได้3 หน่วยธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย 1) ธุรกิจ Bio – PCM ขนาด 65 ตันต่อวัน ซึ่งเลื่อนการส่งมอบจาก 2Q63 เป็น 3Q63 แต่ไม่กระทบประมาณการกำไรปกติของเรา เนื่องจากเราให้ U–rate ที่ Conservative ที่เพียง 25% เท่านั้นและมีคำสั่งซื้อในต่างประเทศที่รองรับแล้ว 2) เริ่มรับรู้รายได้หน่วยธุรกิจ EV – Car จำนวน 180 คันใน 4Q63 และจะทยอยส่งมอบที่เหลือในปี 2564 และ 3) หน่วยธุรกิจแบตเตอรี่ Phase 1 ขนาด 1 GWh คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ใน 4Q63
ราคาร้อนแรงจนไม่เหลือ Upside...คงคำแนะนำ “TRADING”
เรายังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563 ที่ 6,521 ลบ. (+11.4% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ ยังคงเติบโต จากการ
1) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าทุกโครงการเต็มปีเป็นปีแรก รวมขนาด 664 MW
2) เริ่มรับรู้รายได้หน่วย ธุรกิจ Bio – PCM ที่มีมาร์จิ้นสูงใน 3Q63
3) เริ่มทยอยส่งมอบ EV – Car ราว 5,000 คัน ตั้งแต่ 4Q63 และ
4) โรงงานแบตเตอรี่ Phase 1 ขนาด 1GWh คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ใน 4Q63
เรายังคงราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 43.00 บำทต่อหุ้น มี Upside จาก 1) Bio – PCM Phase 2 อีกขนาด 65 ตันต่อวัน คาดจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2564 2) โรงแบตฯ อีกขนาด 47 GWh และ 3) หน่วยธุรกิจ EV-Car, E-bus และ E-ferry ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการเบื้องต้น เรามีมุมมองบวกต่อการเข้าลงทุน NEX ซึ่งเป็นการต่อยอดในหน่วย ธุรกิจ E-bus อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาราว 24% MTD สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ราว -2% ถึง +6% ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการลดน้ำหนักการลงทุน
ในเชิงกลยุทธ์ รอเข้าสะสมเมื่อหุ้นมีการพักตัว (BK: ดูราคาหุ้น EA)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities