ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง ! หลังทาง #อิหร่านออกหมายจับทรัมป์ ข้อหาสังหารนายพลโซเลมานี นายพลใหญ่ผู้เป็นที่รักของชาวอิหร่านเมื่อช่วงต้นปีนี้ ที่เกือบทำให้เกิดสงครามขึ้น
#เรื่องนี้มีความสำคัญต่อตลาดโลกอย่างไร ?
หลายท่านยังจำเหตุการณ์เมื่อตอนต้นปีกันได้ไหมครับ ? หลังจากฉลองปีใหม่ไปได้ไม่กี่วัน เราก็ได้ยินข่าวว่าทรัมป์ได้สั่งใช้โดรนลอบสังหารนายพลอิหร่านเมื่อวันที่ 3 ม.ค หลังจากนั้นมาทางอิหร่านก็ลั่นว่าจะล้างแค้นและได้เปิดศึกยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐชุดใหญ่ ราคาน้ำมันดีดสูงขึ้นจนแตะระดับ 75 เหรียญต่อบาร์เรล (สูงกว่าราคาในวันนี้เกือบสองเท่า) และ Hashtag #WorldWar3 ก็บินว่อนกันทั่วโซเชียลมีเดีย... ทุกฝ่ายกลัวว่าอาจเกิดเป็นสงครามโลกขึ้นอีกครั้ง...
แต่โชคดีที่ไม่มีทหารสหรัฐเสียชีวิต และในการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ในไม่กี่วันต่อมาก็ได้ช็อคโลกโดยการบอกว่าทางสหรัฐจะไม่เปิดศึกกลับใส่อิหร่าน (ถึงแม้ว่าแหล่งข่าวหลายแหล่งกล่าวว่าทางทรัมป์นั้นได้สั่งยิงขีปนาวุธโต้ตอบใส่อิหร่านแล้วแต่ทางผู้บังคับบัญชาทหารไม่ยอมทำตามเพราะไม่อยากให้เกิดสงคราม) ทำให้เรื่องราวก็ค่อยๆเงียบลงไป และเพียงไม่กี่อาทิตย์ต่อมา #ไวรัสโควิด ก็ได้คืบคลานเข้ามาในชีวิตของพวกเรา + กับทางสหรัฐและอิหร่านเองด้วย ทุกๆฝ่ายไม่มีเวลาที่จะตอบโต้เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการกับไวรัส จนทำหลายคนอาจลืมไปแล้วว่า #อิหร่านยังคงแค้นอยู่
จนมาถึงวันนี้ ทางรัฐบาลอิหร่านได้รายงานว่า อิหร่านได้ออกหมายจับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่อีก 35 ราย ในข้อหาสังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน และทางอิหร่านเตรียมเรียกร้องให้ตำรวจสากล (Interpol) ช่วยจับตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย !
#ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่มีผลกระทบมากต่อตลาดโดยทันที และดูเหมือนเป็นสิ่งที่ยากมากที่อิหร่านจะทำได้สำเร็จ แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ #อิหร่านยังแค้นไม่หาย และคงไม่หยุดจนกว่าที่จะได้ล้างแค้นกับทางสหรัฐ (หรือกับทรัมป์โดยตรง เพราะในสมัยของโอบามานั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทรัมป์สั่งฉีกสนธิสัญญานิวเคลียร์ออกไปกลางอากาศ) โดยเฉพาะการที่อิหร่านยังคงโดนคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบอยู่ด้วยยิ่ง #ทำให้ตลาดนั้นยังมีความเสี่ยง ที่ความตึงเครียดอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
โดยเฉพาะการที่การเลือกตั้งสหรัฐนั้นใกล้เข้ามาแล้วยิ่งทำให้เรื่องนี้มีความสำคัญ ถึงแม้ทางอิหร่านนั้นจะไม่ได้อยู่ข้างทรัมป์แน่ๆและต้องการให้ทรัมป์หลุดออกจากตำแหน่ง แต่ทางอิหร่านก็อาจจะไม่มีอำนาจต่อรองการการเมืองใดที่จะเข้ามากระทบกับการเลือกตั้งได้
#ที่น่าสนใจกลับเป็น ทางทรัมป์อาจใช้จุดนี้กลับมาโจมตีอิหร่านและพยายามพลิกกลับมาหาเสียงเพิ่มได้ เพราะจากสถิตินั้นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งในช่วงสงครามนั้น ส่วนมากจะได้รับเลือกกลับมาคืนตำแหน่งในสมัยที่ 2 อยู่เสมอ นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทรัมป์อาจทำมาพลิกคะแนนความนิยมที่ยังตามหลังโจ ไบเดนอยู่ในตอนนี้ได้
ประกอบกับการที่ UN หรือสหประชาชาติเพิ่งคอนเฟิร์มออกมาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการยิงโรงแปลรูปน้ำมันซาอุดีอาระเบียในปีที่แล้วด้วย ยิ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทางสหรัฐอาจใช้เข้าไปกดดันอิหร่านได้อีกด้วย (รายละเอียดในคอมเม้นท์)
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาทางทรัมป์เองจะยุ่งอยู่กับไวรัสโควิดในประเทศและก็มีปัญหาตึงเครียดกับจีน จนทำให้ไม่มีเวลาไปต่อสู้กับอิหร่าน #แต่ต้องจับตาดูอย่างยิ่งว่า การที่อิหร่านออกหมายจับทรัมป์ในวันนี้นั้น จะจุดชนวนความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่ ?
ถ้าเป็นเช่นนั้นสินทรัพย์เสี่ยงจะโดนเทขาย ราคาทองและราคาน้ำมันจะดีด และโอกาสที่ทรัมป์จะกลับมาในสมัยที่ 2 อาจสูงขึ้นอีกครั้ง
#ติดตามดูทุกความเคลื่อนไหวในตลาดไปกับเพจเราได้
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเราฝาก Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ
♦4 โรงกลั่นยักษ์ใหญ่จีน ผนึกกำลังกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดในโลก ต่อกรโอเปก