🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

Trader น้ำมันที่ Goldman Sachs ฟอร์มดี ทำกำไรไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญในปีนี้ พวกเขาทำได้อย่างไร?

เผยแพร่ 12/06/2563 13:08
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เป็น ข่าวใหญ่ที่สุดในหมู่เทรดเดอร์น้ำมันในตอนนี้ หลังจากมีรายงานออกมาว่าทาง เทรดเดอร์น้ำมันที่ Goldman Sachs ได้ทำการ Short ราคาน้ำมันครั้งใหญ่ในช่วงต้นปีนี้และทำกำไรไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญภายในเวลาไม่กี่เดือน !

เป็นบทความที่ อยากแชร์ให้กับนักลงทุนและเทรดเดอร์ทุกท่าน ได้อ่านนะครับ เพราะผมได้เรียนรู้จากเทรดเดอร์ 2 ท่านในบทความนี้เป็นอย่างมากถึงแม้ว่าจะเป็นการพูดคุยสั้นๆ

ถึงแม้ว่าทาง Warren Buffet จะเพิ่งเทขายหุ้นของ Goldman Sachs วาณิชธนกิจ (Investment Bank) รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เพราะมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐไม่น่าสู้ดีและจะทำให้รายได้ในฝั่งของการระดมเงินทุน, การควบรวมกิจการของ Goldman Sachs นั้นไม่ค่อยดีนัก

แต่ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลหลักๆที่ทาง Warren Buffet ได้เข้าไปช้อนหุ้นของ Goldman Sachs โดยไม่ลังเลในช่วงวิกฤต 2008 และผมก็ยังจำคำพูดนั้นได้อย่างชัดเจน

Buffet ได้โดนถามว่าทำไมคุณกำลังเข้าซื้อกิจการวาณิชธนกิจในช่วงวิกฤตการเงิน ทั้งๆที่ทุกฝ่ายกำลังเทขาย... ?

ทาง Buffet จึงตอบสั้นๆว่า "จริงอยู่ว่าธุรกิจและเศรษฐกิจนั้นไม่ดี แต่ด้วยราคาขนาดนี้คุณ จะหาบริษัทที่มีระบบและคนฉลาดระดับนี้มารวมตัวกันมากที่สุดขนาดนี้ นั้นหาไม่ได้แล้ว และเมื่อคุณมีทั้งสองอย่างนี้พวกเขาก็จะหาทางทำกำไรให้คุณเอง"

หรือเรียกง่ายๆว่าปู่ได้เข้าซื้อหุ้น Goldman Sachs เพราะ คน นั้นเองครับ

Goldman Sachs เป็นวาณิชธนกิจที่มองทิศทางราคาน้ำมันได้เฉียบคมมากๆ

เราเคยเขียนบทความเรื่องนี้ไปแล้ว เดี๋ยวจะลิ้งค์ให้ในคอมเม้นท์นะครับ แต่หลายต่อหลายครั้งที่ทาง Goldman Sachs สามารถมองราคาน้ำมันได้แม่นยำและยังมีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาดได้นั้น ก็เพราะระบบที่ล้ำสมัยและคนระดับหัวกะทิต่างๆที่ทั้งตลาดยอมรับ

โดยในปีนี้ธุรกิจเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities Trading) ของ Goldman Sachs นั้นได้ทำกำไรไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญภายในเวลาไม่กี่เดือน (หลักๆคือจากน้ำมันอย่างที่ข่าวได้เขียนไว้) นั้นก็เพราะพวกเขาสามารถมองราคาน้ำมันขาลงได้อย่างเฉียบคมตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสงครามราคา ผลกระทบไวรัสโควิด รวมไปถึงการที่ราคา WTI อาจลงไปติดลบด้วย

โดยผู้ที่เป็นคนกุมบังเหียนของโต๊ะเทรดน้ำมันของ Goldman Sachs และเป็นคนทำกำไรได้หลักๆนั้นมีอยู่ 2 คนในข่าว นั้นคือ Anthony Dewell หัวหน้าสาขาลอนดอนและ Qin Xiao หัวหน้าสาขาสิงคโปร์

ผมเคยได้มีโอกาสไปร่วมทานข้าวกับ Anthony และ Qin ทีมเทรดน้ำมันของ Goldman Sachs ครั้งนึงและก็ได้เรียนรู้ว่า...

ด้วยความโชคดีที่พวกเขาก็เปิดให้ผมได้ถามคำถามต่างๆกับพวกเขาอย่างเป็นกันเองมากๆนั้น สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ ถึงแม้ทั้งคู่จะมีความรู้มากกว่าผมอยู่หลายเท่านัก แต่เขากลับฟังคำถามของผมอย่างจริงจังและพยายามนำข้อมูลในสิ่งที่ผมคิดไปเช็คกับทฤษฏีของเขาอยู่ตลอดเวลา (อาจจะเป็นการใช้ผมเป็นตัวอย่างของความคิดเม่าในตลาดคนนึงก็ได้)

แต่ที่ผมรู้สึกประทับใจที่สุดคือ เวลาที่พวกเขาอธิบายมุมมองในตลาดของเขา พวกเขาจะคิดหลายมุมมากๆ ทั้งมุมปัจจัยบวกและมุมปัจจัยลบ เวลาอธิบายหลายมุมแล้วคนฟังอาจจะงง (ผมก็งงเพราะพูดแต่ละอย่างก็มีคำว่า "แต่" ตามมาตลอด) แต่ในทุกๆมุมนั้นเค้าจะรู้ตัวดี สามารถอธิบายและให้น้ำหนักอย่างชัดเจนว่าสิ่งไหนมันเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดจริงๆ หรือสิ่งไหนเป็นสิ่งที่แค่เป็นไปได้เท่านั้น

และด้วยระบบและข้อมูลที่พวกเขามีที่ Goldman Sachs นั้น ทำให้พวกเขา เทรดแต่ในสิ่งที่พวกเขารู้ อะไรที่เป็นสิ่งที่ พวกเขาไม่รู้หรือไม่แน่ใจ พวกเขาจะไม่เทรดแต่ก็จะคอยเก็บรายละเอียดอยู่เสมอ

ถึงแม้วันนั้นพวกเขาจะยังไม่ได้มีชื่อเสียง แต่ผมก็รู้เลยว่าสักวันนึงเมื่อข้อมูลตลาดมันเรียง Align กันให้พวกเขาเทรดได้อย่างมั้นใจเต็มที่นั้น พวกเขาก็จะสามารถทำกำไรได้อย่างที่เห็นนี้แน่ๆ และวันนี้เราก็ได้เห็นในข่าวแล้วจริงๆ (แนบที่มาในคอมเม้นท์)

สุดท้ายนี้ แค่อยากฝากข้อคิดไว้กับนักลงทุนและเทรดเดอร์ว่า จงพยายามถามคำถามเยอะๆ พยายามศึกษาให้เข้าใจว่าอันไหนเป็นสิ่งที่เรารู้จริง หรือเป็นสิ่งที่มันเป็นแค่ความคิด ? และอย่ามองตลาดแค่ข้างเดียวมันจะเกิด Confirmation Bias หรือการคิดเข้าข้างตัวเอง เราต้องพยายามหาทฤษฏีตรงข้ามมาโต้แย้งเสมอและวัดน้ำหนักกัน

การเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงของตลาดเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับผู้ที่ไม่มีระบบและแหล่งข้อมูลอย่าง Goldman Sachs แต่มันจึงยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเราที่จะพยายามแยก ความเข้าใจที่แท้จริงกับการคิดไปเอง ให้ออกครับ

#ทันโลกกับTraderKP

บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

........

บทความห้ามพลาด

ตลาดน้ำมันกำลังได้เปรียบ วันสิ้นโลกเป็นแค่เรื่องหลอกลวง และนี่คือเรื่องจริง

Goldman Sachs ฟันธงราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวลดลง -17% ภายใน 2 อาทิตย์นี้

ราคาน้ำมันดิบโลก ยิ่งขึ้นเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งปรับตัวลงไปนานเท่านั้น!

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย