ช่วงคืนที่ผ่านมาแม้จะเป็นวันหยุดในฝั่งสหรัฐแต่ตลาดการเงินก็ฟื้นตัวได้ โดยดัชนี Euro Stoxx 600 ปรับตัวบวก 1.5% ขณะที่ DAX ของเยอรมันฟื้นตัว 2.9%
แม้ประเด็นที่ตลาดการเงินให้ความสนใจอยู่คือการตอบโต้ระหว่างสหรัฐและจีนทั้งในมุมการเมืองและธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวกลับหลังจากนี้เช่นกัน ราคาน้ำมันดิบจึงทยอยปรับตัวขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมัน WTI ยืนได้ที่ระดับ 33.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สวนมุมมองของสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA ที่เตือนว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะหนุนให้การบริโภคฟื้นกลับไปอยู่ที่ระดับปกติได้ภายในปีนี้
ส่วนในฝั่งตลาดเงิน ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดยังคงเป็นทิศทางของดอลลาร์ (DXY) ที่แข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่สาม โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกถือดอลลาร์เพื่อหลบความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับลดการถือเงินยูโร (EUR) เพราะมีความเป็นไปได้ที่ฝั่งยุโรปจะมีการเสนอนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในเดือนหน้า
ส่วนเงินบาทแม้จะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ก็อ่อนค่าพร้อมกับบอนด์ยีลด์ที่ลดลงสวนทางกับตลาดหุ้นที่ฟื้นตัว การเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะเกิดจากการเก็งกำไรของนักค้าเงิน บนความสัมพันธ์ของเงินบาทกับเงินหยวน (CNY) ที่ในระหว่างวันอ่อนค่าใกล้เคียงกับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจปี2008 แม้เราจะมองภาพดังกล่าวเป็นประเด็นระยะสั้น แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนให้ระวังการเมืองมากขึ้นและยังคงเชื่อว่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้อีกครั้งในช่วงก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ
ฟังมุมมองเรื่อง จีนออกกฏหมายความมั่นคงให้ฮ่องกง กดดันตลาดปรับตัวลงแรง ได้แล้วที่ podbean https://www.podbean.com/ei/dir-hgta9-8faeb7d