Earnings Results
►ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (BK:STEC) ประกาศกำไรปกติ 209 ล้านบาท (-57%QoQ ,-39 %YoY) น้อยกว่าที่เราและตลาดคาด ราว 35% ผลกระทบจากมาร์จิ้นที่ปรับลด และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูงขึ้น
►รายได้จากการก่อสร้างและบริการ 9.3 พันล้านบาท (+2%QoQ,+24%YoY) รายได้เห็นการเติบโตต่อเนื่อง จากความคืบหน้าของงานงานโครงการรัฐสภา รถไฟฟ้ าสายสีส้ม/ชมพู/เหลือง และรถไฟทางคู่
►มาร์จิ้น รับลดลงเป็น 4.1% ลดลงจาก 4Q62 ที่4.5% และปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับ1Q62 ที่7.3% ผลจากการรับรู้รายได้ของโครงการรัฐสภาที่มีมาร์จิ้น 0%
►ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 151 ล้านบาท (+54%QoQ,+3%YoY)
►กำไรจากเงินลงทุน 6 ล้านบาท น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ 4Q62 เกิดจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุน 238 ล้านบาท ซึ่งเป็นไตรมาสที่มีการรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู/เหลือง เริ่มบันทึกเข้ามาเป็นครั้งแรกตามสัดส่วนการลงทุนที่ 15% ของโครงการ ทางบริษัทระบุกำไรจากรายการดังกล่าวจะบันทึกราว 200 ล้านบาทต่อปี
►กำไรดำเนินงาน (EBIT) 227 ล้านบาท (-28%QoQ,-43%YoY) ผลกระทบจากมาร์จิ้นที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่ม
Our Take
►คาด 2Q63 มาร์จิ้นอาจยังไม่แข็งแรงแต่รายได้ไปต่อ เราคาดผลประกอบการใน 2Q63 ยังมีผลกระทบจากมาร์จิ้น จากความคืบหน้าของงานรัฐสภาที่มีมาร์จิ้น 0% อย่างไรก็ดีใน 2H63 จากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าที่มีความคืบหน้าเพิ่ม จะเป็นโอกาสเห็นการพลิกฟื้นของมาร์จิ้น ทั้งนี้การรับรู้รายได้ยังทำได้ดีผลจากงานในมือปัจจุบันที่ระดับ 9 หมื่นล้านบาทหนุน
►รอประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อขยาย STEC มีงานในมือปัจจุบันกำลังก้าวสู่ระดับแสนล้านบาทหลัง กลุ่ม BBS ( STEC ถือหุ้น 20% ) ได้รับงานสนามบินอู่ตะเภา มีวงเงินก่อสร้างเฟสแรก ราว 3 หมื่นล้านบาท คาดเห็นความคืบหน้าของงานก่อสร้างในปี 2564 ขณะที่ภายใน ปี 2563 งานภาครัฐที่เห็นกรอบเวลาชัดเจน คือรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท คาดสามารถขายซองประมูล (TOR) ได้ภายในเดือน พ.ค-มิ.ย ทราบผล ผู้รับเหมาภายในปีโดย STEC พร้อมเข้าประมูลร่วมกับ BTS คาดหวังจะเป็นงานใหม่หนุนงานในมือเพิ่ม
►คำแนะนำ เก็งกำไร เราคาดระยะกลาง ยังเห็นผลกระทบต่อกำไรจากมาร์จิ้นที่มีแรงกดดัน โครงการรัฐสภา ที่คาดงานก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563 (ปัจจุบันมีความคืบหน้าของงานมากกว่า 80%) คาดระดับมาร์จิ้นจะฟื้นตัวในช่วง 2H63 จากงานใหม่ที่มีมาร์จิ้นดีมีการรับรู้รายได้เพิ่ม ราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 23.20 บาท (อ้างอิง PBV-1.50SD ที่ 2.4เท่า) ปัจจุบัน STEC ซื้อขายระดับ PBV ที่ 1.4 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 3.30เท่า
►ปัจจัยเสี่ยง : การควบคุมมาร์จิ้นของโครงการและความคืบหน้าของงานใหม่ซึ่งมีผลต่อการ ฟื้นตัวของผลประกอบการซึ่งหากไม่เป็นไปตามคาดอาจมีผลต่อการปรับลดประมาณการลง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities
ถ้าไม่อยากจะพลาดบทความดีๆส่งตรงถึงมือถือทุกวัน อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ