คาดว่า SET INDEX วันนี้ 28 เม.ย. จะอ่อนตัวลงกรอบ 1255 –1264
เชื่อว่าจะเผชิญแรงกดดันจากกลุ่ม น้ำมันตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ BRENT (NYSE:BNO) ที่ร่วงลง 6.8% ส่วนนึงเชื่อว่ามาจากสัญญาส่งมอบเดือน มิ.ย. ที่เข้าใกล้วันหมดอายุ (30 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุน / นักเก็งกำไรบางส่วนที่ไม่ได้มีความต้องการน้ำมันเร่งปิดสัญญากอปรกับมีข่าวว่า ถังจุน้ำมัน ในสหรัฐใกล้เต็มความจุ
ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้ ทางที่ประชุม ศบค. มีมติเสนอให้รัฐบาลขยายระยะเวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน (ห้ามออกนอกเคหสถาน 4 ทุ่ม - ตี 4) พร้อมกับเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์เดือน พ.ค. ออกไปเพื่อกันประชาชนเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด ประกอบกับเสนอให้บางธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้ โดยจะแบ่งออกเป็นสีต่างๆ (รัฐบาลจะนำทั้งหมดมาพิจารณาในวันนี้ )
o สีขาว (เปิด 4 พ.ค.) ธุรกิจจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน (ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหารที่เปิดในที่โล่งแจ้ง สวนสาธารณะ )
o สีเขียว (เปิด 18 พ.ค.) ร้านขนาดเล็กติดแอร์ พื้นที่ไม่มาก สนามออกกำลังกายกลางแจ้ง และต้องมีมาตรการควบคุม
o สีเหลือง (เปิด 1 มิ.ย.) กิจการพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ คนใช้บริการจำนวนมาก
o สีแดง (เปิด 15 มิ.ย.) กิจการความเสี่ยงสูง อาทิ สนามมวย แหล่งบันเทิง
จากข้อมูลข้างต้นเรามองว่าจะช่วยหนุนบรรยากาศโดยรวมการจับจ่าย , เศรษฐกิจ ให้ดีขึ้นได้จากเดิมและตัวที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจะเป็น CPALL (BK:CPALL) ด้วยรูปแบบธุรกิจ 7 - 11 ที่มีสาขาครอบคลุมหลายพื้นที่ในประเทศง่ายต่อการเข้าถึงประกอบกับเป็นสินค้าจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน ส่วนการเปิดศูนย์การค้าหากเป็นไปตามที่ทาง ศบค.เสนอไว้เชื่อว่าจะอยู่ในสีเหลือง (เปิด 1 มิ.ย.) ดังนั้นอาจกดดันจิตวิทยาการลงทุนต่อ CPN COM7 GLOBAL HMPRO เนื่องจากก่อนหน้านี ราคาได้ขึ้นมาเพื่อรอข่าวว่าศูนย์การค้าอาจจะสามารถเปิดในได้เดือน พ.ค. แต่หากหลังที่ ประชุมมีมติให้เปิดศูนย์การค้าได้ในช่วง พ.ค. เชื่อว่าราคาหุ้นได้ขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว อาจเผชิญแรง Sell on fact ได้ อย่างไรก็ตามแนะติดตามความชัดเจนจากรัฐบาลในวันนี้ ดังนั นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะเลือกหุ้นมีปัจจัยบวกหนุน (CPALL) ได้ ประโยชน์จากน้ำมันลง (EPG SCC TASCO) หุ้นได้ประโยชน์สหรัฐเตรียมเปิด (TU)
Stock Pick
TASCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21 บาท) คาดยอดขายทั้งปีจะอยู่ราว 2.05 ล้านตัน (เดิม 2.2 ล้านตัน) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ 2.1 -2.2 ล้านตันและยอดขายปี ที่แล้วที่ 2.27 ล้านตัน (ตามยอดขายในจีนและมาเลเซียที่หดตัวลง )อย่างไรก็ตามคาด ยอดขายใน 2 Q20E มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะจากจีนประกอบกับจะได้ประโยชน์ จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
EPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 8.2 บาท) ระดับรายได้และกำไรสุทธิคาดว่าจะกลับมา ภายใน FY1Q20E จากยอดขายอะไหล่รถยนต์ที่คาดจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากมีไฟป่าในออสเตรเลีย (25 % ของยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ขายในออสเตรเลีย) และ ราคา วัตถุดิบบนสัญญาใหม่จะเริ่มทยอยเข้ามา ซึ่งเป็นราคาที่ต่่ากว่าช่วงก่อนหน้านี้
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
หุ้นตัวใดที่คุณควรซื้อในการเทรดครั้งถัดไป?
ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลของ AI กำลังจะเปลี่ยนแปลงตลาดหุ้น บริการ ProPicks AI ของ Investing.com เป็นพอร์ตหุ้นที่ทำกำไร 6 พอร์ตที่คัดเลือกหุ้นโดยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยของเรา เฉพาะในปี 2024 เพียงปีเดียว เทคโนโลยี AI ของ ProPicks AI ได้ระบุหุ้น 2 ตัวที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 150%, หุ้นเพิ่มเติมอีก 4 ตัวที่ดีดตัวขึ้นกว่า 30% และหุ้นอีก 3 ตัวที่ไต่ระดับขึ้นกว่า 25% แล้วหุ้นตัวใดที่จะทะยานขึ้นต่อไป?
ปลดล็อก ProPicks AI