แนวโน้มกำไร 1Q63 ยังไม่ได้ผลกระทบจาก COVID-19
คาดรายได้ 1Q63 ที่ 943 ลบ. แม้ลดลง 2.8% QoQ เพราะฐานสูงแต่เติบโตถึง 7.3% YoY เนื่องจาก
1) คลัง เย็นที่เริ่มมีการเช่าที่ลดลงช่วงต้นไตรมาสกลับมาแน่นในช่วงกลางไตรมาสเป็นต้นมาเพราะลูกค้าเริ่มกลับ มาสต๊อกเพิ่มโดยเฉพาะกลุ่มอาหารทะเลและไก่ ร่วมถึงได้ลูกค้าใหม่กลุ่มร้านอาหารที่ปิดหน้าร้านและมา ให้บริการ Delivery มากขึ้นทำให้ Occupancy rate อาจแตะระดับ 80% ขึ้นไปได้ทุกคลังพร้อมกันเป็นครั้งแรก
2) คลังสินค้าทั่วไปมีการใช้เพิ่มขึ้นเพราะลุกค้าติดเรื่องการส่งออกทำให้ต้องเช่าคลังนานขึ้น ส่วนคลัง JCS ที่เป็นเคมีภัณฑ์ได้ลูกค้าใหญ่กลุ่ม ปตท. (BK:PTT) เช่าใช้ทำให้ Occupancy rate สูงเช่นกัน ยานยนต์และลานสินค้าอันตรายยังทรงตัว ธุรกิจขนส่งทางรางและการขนส่งข้ามพรมแดนยังทรงตัวถึงเติบโตเล็กน้อย คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29.8% สูงสุดในรอบ 9 ไตรมาสตาม Occupancy rate ที่เพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัทร่วมคาดที่ 16 ล้านบาท มาจาก TMS (เวียดนาม) ราว 11 ลบ. และจาก PPSEZ (กัมพูชา)ราว 5 ลบ. เนื่องจากไม่มีการขายที่ดินในนิคม กำไรปกติคาดที่ 92 ลบ. เพิ่มขึ้น 3.3% YoY แต่ลดลง 25.4% QoQ เพราะ 4Q62 มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมสูงถึง 41 ลบ. จากการขายที่ดินในนิคมของ PPSEZ ที่ 92 ลบ. ถือว่าดีกว่าเราคาดก่อนหน้าว่าอาจลดลง 10 – 15% YoY เป็ น 80 - 85 ลบ.
2Q63 คงหนีผลกระทบไม่ได้แต่ยังอย่ใูนระดับที่ยอมรับได้
COVID-19 น่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจยานยนต์มากที่สุด อาจกระทบรายได้ในส่วนนี้ลดลงทั้ง QoQ และ YoY ในระดับที่มีนัยสำคัญ รองลงมาเป็นคลังสินค้าทั่วไปที่แม้อัตราการเช่าใช้ยังสูง แต่อาจต้องมีการลดค่าเช่าลงบ้างในช่วงสั้น ส่วนธุรกิจลานวางสินค้าอันตรายได้รับผลกระทบจากจีนปิดประเทศทำให้สินค้า ผ่านเข้า-ออกชะลอลงบ้างในเดือน เม.ย. แต่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับหลังจีนเริ่มเปิดประเทศขณะที่การงดเว้นวันหยุดสงกรานต์ทำให้วันทำงานเพิ่มขึ้นช่วยลดผลกระทบได้ระในระดับหนึ่ง ส่วนธุรกิจคลังเย็นยังแน่น ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคลังเย็นแห่งใหม่ขนาดกว่า 3,000 ตร.ม. เราคาดกำไรปกติ 2Q63 เบื้องต้น ที่ราว 70 ลบ.+/- ชะลอลงเพียง 10 – 15% YoY ถือว่าจำกัด เป็นผลจากการให้บริการในกลายกลุ่ม อุตสาหกรรมจึงมีการกระจายความเสี่ยง
หยุดการลงทุนที่ไม่จำเป็น ราคาหุ้นมี Valuation น่าสนใจ ... คงคำแนะนำ ซื้อ
จากเดิมที่มีแผนใช้ CAPEX ราว 1,000 ลบ. ในปีนี้ บริษัทมีแผนชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด เหลือเงินลงทุนใหญ่คือคลัง 9 เป็นคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิเพราะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนแตะระดับเฉลี่ยที่ 80% แล้ว ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 250 ลบ. คาดเริ่มสร้างรายได้ภายใน 1Q64 เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลกระทบของ JWD (BK:JWD) ที่ยังแข็งแกร่งแม้มีผลกระทบบ้างแต่น้อยกว่าเราและตลาดคาด ที่ประมาณการกำไร 1Q63 คิดเป็นสัดส่วนถึง 29% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ประมาณการจึงมี Downside risk จำกัด แต่ราคาหุ้นปรับตัวลง YTD 11.6% ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2563 เพียง 21 เท่า และ EV/EBITDA ต่ำ เพียง 7.9 เท่า ราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงไปมากแล้ว คงประมาณการ คงราคาเป้าหมายที่ 8.00 บาท มี Upside gain 23.1% คงคำแนะนำ ซื้อ พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลทั้งปี ที่ 3.4%
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities