ราคาน้ำมันดิบ WTI (NYSE:WTI) ยังมีปัจจัยกดดันให้อ่อนตัวลงในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจาก (1) การชะลอตัวภาคธุรกิจในสหรัฐเริ่มส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศลดลงล่าสุด (15 เม.ย.) EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐประจำ สัปดาห์ที่ 19.2MMbbl ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 12.1MMbbl และสูงขึ้นติดต่อกัน เป็นสัปดาห์ที่สาม (2) ราคาซื้อขายน้ำมันตามสัญญาล่วงหน้า เกิดภาวะ Contango (ราคาอนาคตต่ำกว่าราคาปัจจุบัน) บ่งบอกถึงคลังเก็บน้ำมันในสหรัฐที่เริ่มเต็มแล้ว (3) การลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและรัสเซียเพียง 10 MMbbl/d (-10% จากเดิม) ที่ จะเริ่มในต้นเดือนพ.ค. อาจไม่มากพอเมื่อเทียบกับความต้องการที่ลดลงจากการปิดประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดตามการเปิดประเทศของสหรัฐตามแผน Opening up America Again ในวันที่ 1 พ.ค. ว่าจะมีนัยต่อปริมาณน้ำมันสำรอง และทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะต่อไปหรือไม่ และคืนนี้ (21.30น.) แนะนำติดตาม การรายงานปริมาณน้ำมันสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐประจำสัปดาห์จาก EIA โดยตลาด คาดการณ์ที่ 15.1MMbbl ต่ำกว่าครั้งก่อนที่ 19.2MMbbl
ในวันนี้แนะนำติดตามข้อมูลการนำเข้าและส่งออกจากศุลกากรของไทยเดือนมี.ค. ,ดัชนี ราคาผู้บริโภค(CPI)ของอังกฤษเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 1.5 % ต่ำกว่าครั้งก่อนที่ 1.7%,ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ของอังกฤษเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ -3.9 % ต่ำกว่าครั้งก่อนที่ -1.2%,
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th