การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐตลอดสองสัปดาห์นี้ เชื่อว่า ไม่มีนัยต่อดัชนีโดยภาพรวม แม้จะออกมาต่่ากว่าคาด เนื่องจากปัจจัยบวกจากการท่า QE ของ FED (Unlimited QE) ยังคงด่ารงอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผล
(1) พิจารณา ความสัมพันธ์ของการท่า QE กับการปรับประมาณการผลประกอบการบริษัทจด ทะเบียนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 พบว่า แม้นักวิเคราะห์คาดการณ์ผล ประกอบการจะท่าจุดต่่าสุดช่วงกลางปี 2009และแทบไม่มีการปรับเพิ่มประมาณการ ในช่วงที่เหลือของปี แต่ดัชนีตลาดหุ้น (S&P500) กลับท่าจุดต่่าสุดก่อนหน้านั้นถึงสาม เดือน และสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปี
(2)มีการ ประกาศการผลประกอบการในสหรัฐแล้ว 34 บริษัท ผลประกอบการเป็นบวก 15 บริษัท เป็นลบ 19 บริษัท และผลประกอบการโดยภาพรวมหดตัว 34 % ในขณะที่ S&P 500 กลับตอบสนองในเชิงลบไม่มาก
ส่านักงานพลังงานสากล ( IEA) ออกรายงานคาดการณ์อุปสงค์น้่ามันทั่วโลกในปีนี้จะ ลดลง 9.3 MMbbl/dayเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการลบล้างการขยายตัวของอุปสงค์ที่ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้สต็อกน้่ามันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 19.2 MMbbl ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการ รายงานตัวเลขดังกล่าว และยังท่าสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 12 สัปดาห์
ในวันนี้แนะน่าติดตามดัขนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรป (มี.ค.) โดยตลาด คาดการณ์ที่ -0.2% ซึ่งเป็นระดับต่่ากว่าครั้งก่อนที่ 2.3% ,จ่านวนคนยื่นขอสวัสดิการ ว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 5,105K ซึ่งน้อยกว่าครั้ง ก่อนที่ 6,606K,รายงานใบอนุญาต ก่อสร้างของสหรัฐ (มี.ค.) โดยตลาดคาดการณที่ ระดับ 1.300M ต่่ากว่าครั้งก่อนที่ 1.452M
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th