- สัปดาห์ที่ผ่านมา การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมากขึ้น สะท้อนจากยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมที่ลดลงกว่า 7แสนราย
- ติดตามสถานการณ์การระบาด COVID-19 และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ โดยตลาดอาจเปิดรับความเสี่ยงในระยะสั้น หากอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตเริ่มลดลง หรือข้อมูลเศรษฐกิจไม่ได้แย่กว่าที่คาดไว้
- อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า ตลาดการเงินยังมีโอกาสปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) เพราะการระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ยุโรป และไทยจะยังไม่สงบลงโดยง่าย อีกทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ฝั่งผู้นำเข้าจึงควรใช้โอกาสที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ในการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
- กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 32.65-33.15 บาท/ดอลลาร์
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในวันอังคาร ตลาดมองว่า RBA จะ “คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Cash Rate) ที่ระดับ 0.25% ทั้งนี้ตลาดยังคาดว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำดังกล่าว ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการ Yields Curve Control เพื่อประคองเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหนัก
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ในวันพฤหัสฯ ตลาดมองมีโอกาส 50% ที่ BOK จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (7-Day Repo Rate) ที่ระดับ 0.75% เพราะมองว่า BOK จะรอดูผลกระทบของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการคลังและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงมากขึ้น อย่างไรก็ดี มีคณะกรรมการ 4 จาก 7 ท่านที่จะหมดวาระลงในเดือนเมษายน ซึ่งอาจส่งผลต่อนโยบายการเงินในอนาคตได้
- ฝั่งสหรัฐฯ – ตลาดจะติดตามสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานอย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claims) ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 ล้านราย สะท้อนว่ามาตรการ Lock Down จะยังคงกดดันตลาดแรงงานสหรัฐฯ ต่อ ส่งผลให้อัตราการว่างงานในไตรมาส 2 อาจพุ่งทะลุ 15% นอกจากนี้ ตลาดมองว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) ก็มีแนวโน้มดิ่งลงจากระดับ 89.1จุด สู่ระดับ 65จุด หลังชาวอเมริกันเริ่มปรับมุมมองว่าการระบาดของ COVID-19 อาจกินเวลายาวนานกว่าที่คิดไว้ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ (Economic Policy Uncertainty) ก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 1985 หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฝั่งไทย – ตลาดมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงจากการระบาดของ COVID-19 และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่เฉลี่ยลดลงถึง 50% จากปีก่อน จะกดดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือนมีนาคมพลิกมาอยู่ที่ระดับ -0.6% จาก +0.74% ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้สถานการณ์การระบาดที่ยังไม่แน่นอนจะกดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับ 60จุด จากระดับ 64.8จุด ในเดือนกุมภาพันธ์
มุมมองนโยบายการเงิน
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก