รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

MAJOR...ปิดโรงหนังให้เจ็บแต่จบ

เผยแพร่ 19/03/2563 12:58

ในการทำธุรกิจ สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดก็คงจะเป็น ขายของไม่ได้ รายได้ไม่เข้า แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเต็มไปหมด ถ้าตกอยู่ในสภาพแบบนี้ กำไรจะลดลงเร็วมาก

ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศของรัฐบาลให้ปิดโรงหนัง 14 วัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (BK:MAJOR) ก็ได้รับผลกระทบมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็น หนังเลื่อนฉายทั้ง Fast & Furious 9, A Quiet Place 2, 007 No Time to Die เป็นต้น ซึ่งทำให้รายได้หายไปอย่างมาก เพราะ FF ทำรายได้ปีละ 400-500 ล้านบาทในแต่ละภาค

และการที่หนังเลื่อนฉายไปแล้ว เวลากลับมาฉายใหม่อีกรอบก็ไม่สามารถลงพร้อมกันได้ ก็ต้องรอคิวในการฉาย เรียกได้ว่า รายได้หายแล้วหายเลย รวมไปถึงปีที่แล้วมีฐานสูงจาก Avenger End Game ค้ำอยู่ด้วย

นอกจากนี้ ในช่วง COVID-19 เริ่มระบาด ก็มีการจัดระเบียบการนั่งใหม่แบบแถวเว้นแถว และแต่ละแถวนั่งห่างกัน 2 ที่นั่ง โดยจำกัดไม่เกิน 50 คนต่อโรง

===================

ถ้ามาดูโครงสร้างงบกำไรขาดทุนของ MAJOR

รายได้ 100 บาท
ต้นทุนขาย 65 บาท
SG&A 20 บาท
ดอกเบี้ย ภาษี 4 บาท
กำไรสุทธิ 11 บาท

ถ้าแยกย่อยรายได้ใน 100 บาท ออกมา จะได้เป็น

• 55% ค่าตั๋วหนัง
• 20% ค่าป็อบคอร์น น้ำอัดลม ขนม
• 15% ค่าโฆษณา
• 4% คาราโอเกะและโบว์ลิ่ง
• 4% ค่าเช่าที่

คือ แค่หนังเลื่อนฉายไป รายได้ค่าตั๋ว กับ ป็อบคอร์น ก็หายไป 75% แล้ว นี่ปิดทั้งโรงหนัง 14 วัน แปลว่า จะไม่มีรายได้เข้ามาเลย คิดง่ายๆ แบบนี้ว่า ใน 1 ปี MAJOR ทำรายได้ 11,000 ล้านบาท ตกวันละ 30 ล้านบาท หายไป 2 อาทิตย์ ก็ราวๆ 420 ล้านบาท

สิ่งที่ MAJOR พยายามทำเพื่อให้กำไรลดลงน้อยที่สุด คือ

• ลดค่าเช่ากับเจ้าของห้างหรือ Landlord ตามที่ต่างๆ ซึ่งตอนแรกอาจจะเจรจากันได้ในระดับหนึ่ง แต่พอมาเป็นมาตรการรัฐ ก็น่าจะช่วยให้คุยง่ายขึ้น และอาจไม่เสียค่าเช่าเลยในหลายที่

• ลดเงินเดือนผู้บริหารและพนักงาน ไม่ต่ำกว่า 30% (รายได้ส่วนนี้ประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน ก็น่าจะลดไป 12 ล้านบาท)

• ลดจำนวนพนักงานชั่วคราวที่มีอยู่ 900 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเดินตั๋ว ตรงนี้ลดไปได้ 20 ล้านบาทต่อเดือน

• ลดงบลงทุนที่ส่วนใหญ่เป็นการเปิดสาขา

==================

เห็นบทวิเคราะห์ของบางโบรกเกอร์ ประเมินกำไรสุทธิอาจจะเหลือ 900 ล้านบาท ติดลบ 24% จากปีที่แล้ว ถ้าคิด EPS กลมๆ ก็ 1 บาทพอดี ราคาแถวนี้ก็ P/E 13 เท่า ปันผลถ้าไม่ลด ก็ได้เกือบ 10% แต่ก็มีบางโบรกประเมินเหลือแค่ 450 ล้าน หายไปมากกว่าครึ่งก็มี ในกรณีที่ต้องปิดนาน

ในมุมของ MAJOR เองการปิดโรงหนังน่าจะดีกว่าเปิด เพราะจะได้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทีเดียว ทำ big cleaning และให้รายได้หายไปทีเดียว แบบเจ็บแต่จบไปเลยจะดีกว่า พอเปิดกลับมาใหม่ก็เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ซึ่งเชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคก็น่าจะยังดูหนังกันอยู่เหมือนเดิม และอีกอย่างคือ ถ้าเกิดเจอคนเป็น COVID-19 ในโรงหนังก็อาจจะสร้างความหวาดกลัวมากกว่านี้ได้

แต่ปัญหาหลักที่รอ MAJOR อยู่ก็คือ ถ้า 14 วัน ผ่านไปแล้ว ปัญหายังไม่จบ การติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอยู่ จะทำอย่างไรดี ถ้าต้องปิดต่อทั้งไตรมาส หรือมากกว่านั้น คงจะกระทบหนักขึ้น

ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงนอกจากผู้ถือหุ้นที่ติดดอยแล้ว พนักงานบริษัทโดยเฉพาะพนักงานชั่วคราวกับ Landlord เจ้าของห้างทั้งหลายน่าจะได้รับผลกระทบหนักกว่าใครเพื่อน หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในเร็ววันครับ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins-วิตามินหุ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

เจ้ามือเทมาขนาดนี้เราเองก็น่าจะรู้นะครับ ว่าต่อไปต้องเป็นอย่างไรพวกที่กอดหุ้นนี้ใว้ อาจจะเป็นแค่กระดาษหุ้นที่ไม่มีราคาเลยก็ได้นะครับ
ขายทุกราคาครับโควิดยังอยู่กับเราอีกนาน ไม่มีใครไปดูหนังกันหรอกครับ ย้ายไปเล่นตัวอื่นดีกว่าเพราะไม่มีกำไรจะเอาปัญผลไหนมาจ่าย รีบคัทตอนนี้ดีกว่าหมดตัวนะครับ
เป็นกำลังใจ MAJOR หวังว่าจะมีโอกาสในวิกฤต โปรขายป๊อปคอร์นอาจไม่ตอบโจทย์ตอนนี้
ปิดแค่ 2 อาทิตย์​ ก็ปางตายกันแล้วครับ ถ้าต้องปิดยาวจริงๆ ก็ตายหยังเขียด​กันเลย
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย