- บริษัทจะรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2019 ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาประเทศไทย) หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไรทั้งหมดที่คาดว่าจะได้รับ: $46,910 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ผลกำไรต่อหุ้นที่คาดว่าจะได้รับ: $12.51
นักลงทุนกำลังรอดูตัวเลขผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท (NASDAQ:GOOGL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ search engine ชื่อดังอย่างกูเกิ้ล (Google) ที่จะมีรายงานออกมาในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ นักลงทุนต้องการจะเห็นว่าผลกำไรและการเติบโตของบริษัทจะยังสามารถเติบโตได้ดีถึงในระดับสองหลักอย่างที่เคยทำมาได้หรือไม่เพราะตอนนี้บริษัทอัลฟาเบทกำลังต้องฝ่าด่านทางด้านกฏหมายที่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการการโฆษณา
ที่ผ่านมากูเกิ้ลไม่เคยแสดงให้เห็นเลยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาดิจิทัล ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองว่าการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้ควรเพิ่มสูงขึ้น 19% และจะมียอดขายในไตรมาสที่ 4 ครั้งนี้อยู่ที่ $46,910 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งสูงกว่าไตรมาสครั้งก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน
อันที่จริงแล้วในปี 2019 ที่ผ่านมาหุ้นบริษัทอัลฟาเบทเติบโตขึ้น 28% และเฉพาะในปี 2020 เพียงปีเดียวได้เติบโตขึ้นมาแล้ว 7% ก่อนจะมีราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ $1,432.78
นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าหุ้นของบริษัทอัลฟาเบทจะยังคงทำผลงานได้ดีอย่างที่เคยทำมา ธุรกิจเกี่ยวกับระบบคลาวด์สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นให้บริษัทจาก $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น $2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ถึงเดือนกรกฏาคมปี 2019 ธุรกิจการโฆษณาของกูเกิ้ลนั้นแข็งแกร่งมากเมื่อเราพูดถึงการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลสำคัญอย่าง YouTube และแอป Google Maps
แม้กูเกิ้ลจะลงทุนกับธุรกิจส่วนนี้อย่างมหาศาลแต่ตอนนี้บริษัทกำลังต้องเผชิญกับหน่วยงานทางกฏหมายสหรัฐฯ ที่กำลังตรวจสอบว่ากูเกิ้ลตั้งใจเอาเปรียบการโฆษณากับบริษัทคู่แข่งหรือบริษัทเล็กๆ ที่ต้องการโฆษณากับกูเกิ้ลหรือไม่
หัวหน้ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ นายมาคาน เดลาฮิม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคำฟ้องร้องต่อบริษัทกูเกิ้ลว่าตอนนี้คดีของกูเกิ้ลพร้อมสำหรับการตรวจสอบแล้วซึ่งเราจะเริ่มดำเนินการในช่วงซัมเมอร์ของปี 2020 นี้
ธุรกิจใหม่ของกูเกิ้ล
จากปัญหาด้านกฏหมายที่กูเกิ้ลกำลังจะต้องเผชิญประกอบกับการเติบโตทางเทคโนโลยีของบริษัทคู่แข่งเรื่องธุรกิจคลาวด์คนสำคัญอย่างบริษัทแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) และเฟสบุ๊ก (NASDAQ:FB) เราเข้าใจได้ว่าทำไมนักลงทุนบางคนถึงเป็นกังวลว่าบริษัทอาจเข้าสู่ภาวะชะลอตัว อย่างไรก็ตามด้วยทรัพยากรที่กูเกิ้ลมีทำให้เราเชื่อว่ากูเกิ้ลจะสามารถผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปได้และจะยังมีอัตราการเติบโตที่ดีซึ่งก็ต้องรอดูรายงานผลประกอบการที่จะออกมาในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้
อัลฟาเบทคือบริษัทเทคโนโลยียุคใหม่ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้ามาตลอด ความต้องการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอประกอบกับรายได้จากการโฆษณาคือฟันเฟืองขับเคลื่อนหลักที่ทำให้กูเกิ้ลเติบโตและไม่จำเป็นต้องพึ่งพารายได้จากธุรกิจโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอนนี้กูเกิ้ลกำลังพัฒนาเทคโนโลยีระบบ AI ให้กับพาหนะไร้คนขับที่สามารถขับขี่ด้วยตนเอง ด้วยการเติบโตขึ้นของธุรกิจรถไร้คนขับในสหรัฐฯ เรามองว่าการพัฒนานี้คือโอกาสที่ดีที่กูเกิ้ลจะสามารถต่อยอดการทำกำไรของบริษัทได้
ในมุมมองของเราบริษัทกูเกิ้ลนั้นแข็งแกร่งมากจนหาผู้เทียบเคียงได้ยากในสมัยนี้ การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตบนโลกมากกว่า 90% ล้วนพึ่งพากูเกิ้ลและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทที่เราก็รู้จักกันดีอย่างเช่น YouTube ในทุกๆ วันมีคนเข้ากูเกิ้ลและค้นหาข้อมูลมากกว่า 3,500 ล้านครั้ง แพลตฟอร์มโฆษณาบนกูเกิ้ลจึงเป็นสิ่งที่ผู้ทำโฆษณาต้องการอยู่ตลอดและจึงเป็นไปไม่ได้เลยถ้าตอนนี้ให้เราจินตนาการโลกที่ไร้บริการของกูเกิ้ล
การที่ใครๆ ก็ต้องการโฆษณาบนกูเกิ้ลหมายความว่าบริษัทผู้ทำโฆษณาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากต้องโฆษณาบนกูเกิ้ลถ้าอยากให้ผู้บริโภคเห็นโฆษณาของบริษัทตนเอง คิดแล้วบริษัทกูเกิ้ลถือว่าครองตลาดการโฆษณาดิจิทัลได้มากถึง 40% ของการโฆษณาดิจิทัลทั่วทั้งโลก
ดังนั้นเมื่อมาพิจารณาการดำเนินคดีทางกฏหมายที่กูเกิ้ลจะต้องเผชิญในปีนี้จึงเป็นไปได้ยากมากที่กฏหมายสหรัฐฯ จะสามารถสั่งให้บริษัทอัลฟาเบทปิดตัวลงได้ จากข้อมูลการฟ้องร้องบริษัทชื่อดังในอดีตเรามองว่าสุดท้ายน่าจะจบลงที่การชำระเงินค่าปรับเป็นจำนวนมหาศาลและอาจจะต้องเจอกฏข้อบังคับบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อเข้มงวดการบริการของบริษัทมากขึ้น ล่าสุดกูเกิ้ลก็พึ่งชนะคดีในยุโรปโดยไม่ต้องเสียหุ้นที่ครอบครองไปเลยแม้สักหุ้นเดียว
โดยสรุปแล้ว…
กูเกิ้ลมีเงินทุนมหาศาลและแข็งแกร่งพอจะต่อกรกับปัญหาทางด้านกฏหมายและการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง แม้ในปีนี้หุ้นของบริษัทอาจจะต้องแกว่งไปบ้างเมื่อเจอข่าวแง่ลบเหล่านี้แต่เราก็เชื่อว่าบริษัทยังมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต เสียงนกเสียงกาไม่ควรจะทำให้นักลงทุนไขว้เขวจากความแข็งแกร่งของกูเกิ้ลไปได้ ที่สำคัญบริษัทกูเกิ้ลยังครอบครองสื่อที่สำคัญหลักๆ ของโลกและยังหาผู้เทียบเคียงในเร็วๆ นี้ได้ยากมากที่จะมีใครให้บริการได้ครบครันอย่างกูเกิ้ล ดังนั้นการถือหุ้นของอัลฟาเบทในตอนนี้หาใช่การกระทำที่เบาปัญญาไม่