รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้น 3 ตัวที่น่าสนใจในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ 2020

เผยแพร่ 03/01/2563 15:05
อัพเดท 14/11/2566 19:35

ปี 2019 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ตลาดหุ้นต่างประเทศมีปัจจัยไม่คาดคิดเข้ามากระทบมากมายไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดสหรัฐฯ และที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัวไปให้ได้ โชคดีที่ช่วงท้ายปีตลาดหุ้นใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 และ NASDAQ Composite สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำนับตั้งแต่ปี 2013 เช่นเดียวกันกับตลาดดัชนีดาวโจนส์ที่ถือว่าเป็นอีกทองอีกปีหนึ่งของตลาดแห่งนี้นับตั้งแต่ปี 2017

กราฟเปรียบเทียบการวิ่งตลอดทั้งปีของตลาด S&P 500, Dow Jones และ NASDAQ

แม้ว่าจะยังมีเหตุผลมากมายที่บอกว่าปี 2020 เป็นปีที่นักลงทุนในตลาดหุ้นเหล่านี้ต้องระวังตัว ถึงอย่างนั้นเราก็ยังอยากจะแนะนำหุ้นของบริษัทต่อไปนี้ที่เชื่อว่าจะสามารถทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างดีในปี 2020

1. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าในตลาดสูง: Apple

หุ้นของบริษัท Apple (NASDAQ:AAPL) อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2019 และเชื่อว่าในปี 2020 นี้ก็จะยังคงเป็นเช่นนั้น ในปี 2019 หุ้นของบริษัทผู้ผลิตมือถือชื่อดังอย่างไอโฟนสามารถจบปีได้ที่ระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติกาลอยู่ที่ $293.65 คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมาตลอดทั้งปีมากถึง 86% แซงหน้าดัชนี S&P 500 ที่ทั้งปีวิ่งได้เพียง 29% เท่านั้น นอกจากนี้ในตลาดหุ้น FAANG บริษัทแอปเปิ้ลยังผู้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดอีกด้วยแม้ว่าบริษัทอย่าง Cupertino ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหมือนกันจะสามารถคว้าตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าในตลาดสูงที่สุดคิดเป็นเงินจำนวน $1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไปครองก็ตาม

กราฟหุ้นบริษัท Apple

สาเหตุที่หุ้นของบริษัทแอปเปิ้ลยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2019 แน่นอนว่าเป็นเพราะปริมาณความต้องการมือถือสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างไอโฟน (iPhone) ยังคงมีอยู่และดูเหมือนว่าจะสูงเกินกว่าที่คาดการณ์อีกด้วย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ออกมารองรับเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไอโฟนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่าง AppleWatch, AirPods หรือบริการอื่นๆ อย่าง Apple TV+ และ Apple Arcade ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจึงไม่แปลกใจว่าทำไมหุ้นของแอปเปิ้ลในวอลล์สตรีทจึงยังมีระดับการเติบโตที่ดี

เมื่อมองไปยังปี 2020 นักวิเคราะห์หลายๆ คนเชื่อว่าหุ้นของบริษัทแอปเปิ้ลจะสามารถขึ้นต่อได้อีกถ้าไอโฟนตัวใหม่สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ซึ่งจะเป็นการสร้างนวัตกรรมและพลิกโลกอีกครั้งหนึ่ง นักวิเคราะห์มองว่าผู้ใช้งานที่ยังคงใช้มือถือไอโฟนรุ่นเก่าอยู่จำนวนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกพร้อมที่จะเปลี่ยนมาใช้ไอโฟนรุ่นใหม่ทันทีที่ทราบว่ามือถือรุ่นใหม่ของไอโฟนสามารถรองรับ 5G ได้แล้วจริงๆ

นอกจากนี้บริษัทแอปเปิ้ลยังได้รับผลดีตามไปด้วยเมื่อสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนเริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นเพราะบริษัทแอปเปิ้ลมียอดขายมากถึง 20% จากตลาดทางฝั่งเอเชีย ดังนั้นเมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้วเราเชื่อว่าในปี 2020 นี้จะยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของบริษัทแอปเปิ้ล

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าในตลาดสูงอื่นๆ อีก 3 ตัวที่น่าสนใจ

Microsoft (+54% ในปี 2019)
Amazon (+22% ในปี 2019)
Alphabet (+28% ในปี 2019)

หุ้นของบริษัท Microsoft (NASDAQ:MSFT)) และ Amazon.com (NASDAQ:AMZN) ดูเหมือนว่าจะเป็นหุ้นที่ยังคงมีความน่าสนใจจากการที่พวกเขายังคงทำผลงานได้ดีและยังพัฒนาในเรื่องของระบบการให้บริการคลาวด์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของ search engine ชื่อดังอย่าง Google (NASDAQ:GOOG) อย่างบริษัท Alphabet ก็มีความพยายามที่จะพัฒนาระบบคลาวด์ของตัวเอง

2. หุ้นในกลุ่มของบริษัทซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ: Paylocity

หุ้นของ Paylocity Holdng (NASDAQ:PCTY) บริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับการทำซอฟท์แวร์ระบบคลาวด์และการบริหารจัดการทุนมนุษย์ (HCM) สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจตลอดปี 2019 หุ้นของบริษัทซึ่งเริ่มต้นที่ $58.89 ในช่วงเริ่มปี 2019 สามารถปรับตัวขึ้นได้มากถึง 100% จนมีระดับราคาอยู่ที่ $120.82 แสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่มีต่อการให้บริการระบบคลาวด์และซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ (SaaS) ในตอนนี้บริษัท Paylocity มีมูลค่าในตลาดอยู่ที่ประมาณ $6.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้น PCTY

ในปี 2020 นี้ดูเหมือนว่าความต้องการของนักลงทุนที่มีต่อระบบคลาวด์ที่เข้ามาช่วยจัดการทรัพยากรมนุษย์จะยังไม่จบสิ้น ยังมีบริษัทหรือองค์ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางยังต้องการบริการจากบริษัท Paylocity ซึ่งบริการของบริษัทนี้ครอบคลุมไปตั้งแต่กระบวนการเลือกพนักงานเข้ามาทำงาน การจัดการดูแลทรัพยากรมนุษย์หรือการหาคนเก่งๆ มาให้กับบริษัท

ตลอด 4 ไตรมาสที่ผ่านมาในปี 2019 ของบริษัท Paylocity สามารถคิดเฉลี่ยการเติบโตในแต่ละไตรมาสได้ถึง 20% ต่อไตรมาส นักวิเคราะห์คาดว่าเฉพาะยอดขายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้บริษัทจะสามารถทำกำไรได้อยู่ระหว่าง $129.5 ล้านเหรียญสหรัฐถึง $130.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวิเคราะห์เป็นกำไรแบบปีต่อปีแล้วจะตกอยู่ที่ 21.5%

จากข้อมูลที่ได้ในปี 2019 จึงทำให้เราเชื่อว่าปี 2020 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมของบริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการจัดการทรัพยากรมนุษย์

หุ้นในกลุ่มของบริษัทซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการอีก 3 ตัวที่น่าสนใจ

Paycom (+116% ในปี 2019)
Trade Desk (+123% ในปี 2019)
Okta (+80% ในปี 2019)

เช่นเดี่ยวกันกับบริษัท Paylocity บริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่าง Paycom Soft (NYSE:PAYC) สามารถทำผลงานได้ดีเพราะมีปริมาณความต้องการในตลาดสูง นอกจากนี้ยังมีบริษัท

Trade Desk Inc (NASDAQ:TTD) ซึ่งทำเกี่ยวกับแพลตฟอร์มซอฟท์แวร์บริการตนเองที่ซึ่งลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลการโฆษณาแคมเปญต่างๆ ได้โดยตรง

สุดท้ายหุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจอีกตัวคือ Okta Inc (NASDAQ:OKTA)ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในฐานะผู้พัฒนาระบบความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยระบบคลาวด์ เชื่อว่าหุ้นของบริษัทนี้จะยังคงทำผลงานได้ดีจากกระแสตอบรับที่คนต้องการระบบคลาวด์ การเข้าถึงการจัดการซอฟท์แวร์และความปลอดภัยในโลกไซเบอร์มากขึ้น

3. หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิปเซ็ต: Advanced Micro Devices

บริษัท Advanced Micro Devices หรือที่รู้จักกันในนาม AMD (NASDAQ:AMD) ถือเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในตลาด NASDAQ ในปี 2019 ด้วยผลงานการปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 146% แซงคู่แข่งผู้พัฒนาชิปรายอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำ หุ้นของ AMD ในตอนเริ่มต้นปี 2019 วิ่งอยู่ที่ $18.01 จนสามารถขึ้นมาปิดตัวที่ระดับราคา $45.86 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นการวิ่งเข้าใกล้จุดสูงสุดตลอดกาลที่บริษัท dot-com เคยทำไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2000 ที่ $48.50 ตอนนี้มูลค่าตามตลาดของบริษัท AMD อยู่ที่ $51 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

กราฟหุ้น AMD

นอกจาก AMD แล้วในวงการนี้ยังมีผู้ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่น่าสนใจอื่นอยู่อีกอย่างเช่น Intel (NASDAQ:INTC) และ NVIDIA (NASDAQ:NVDA)) ที่แข่งกันทำชิ้นส่วนที่สำคัญของคอมพิวเตอร์อยู่อย่างเช่น CPU และ GPU

เชื่อว่าในปีนี้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้จะต้องทำผลงานได้ดีขึ้นซึ่งเราจะได้เห็นกันในรายงานผลประกอบการในวันที่ 29 มกราคม ที่บอร์ดบริหารจะต้องการดูยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 48% เมื่อเทียบจากในระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกปีสำหรับหุ้นของกลุ่มผู้พัฒนาอุปกรณ์สำหรับคอมพิวเตอร์

หุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก 3 ตัว

NVIDIA (+76% ในปี 2019)
Lattice Semiconductor (+176% ในปี 2019)
KLA-Tencor (+99% ในปี 2019)

หุ้นของ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) ถือว่าเป็นผู้ที่สามารถเอาตัวรอดมาจากผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนมาได้ โดยพวกเขายังมียอดขายในประเทศจีนมากอยู่ถึง 56%

บริษัท Lattice Semiconductor (NASDAQ:LSCC) ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่จะออกมารองรับ 5G อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตอย่าง AI ระบบเซิฟเวอร์รักษาความปลอดภัย เป็นต้น

แม้ว่าผลงานในปีที่แล้วของบริษัท KLA-Tencor (NASDAQ:KLAC) จะมีสะดุดอยู่บ้างแต่บริษัทนี้ก็ยังถือว่าเป็นคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้สำหรับวงการผู้พัฒนาชิป

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย