ก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าสกุลเงินหยวนจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงตามแนวโน้มใหญ่หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมเซ็นสัญญาผ่านร่างกฎหมายจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯที่ต้องการสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง
เป็นเวลานานกว่าหนึ่งปีครึ่งแล้วที่สหรัฐฯ – จีนทำเกมสงครามการค้ายืดเยื้อกันมาจนในที่สุดทั้งสองมหาอำนาจตัดสินใจที่หยุดความขัดแย้งและกำลังจะยอมตกลงเซ็นสัญญากันในขั้นแรกเพื่อที่จะอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสามารถประณีประนอมกันได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะลดภาษีเท่าไหร่ จีนต้องการให้สหรัฐฯ ถอนภาษีที่เคยขึ้นหลังจากเดือนพฤษภาคมปีนี้ออกทั้งหมดในขณะที่สหรัฐฯ มองว่าจีนยังไม่มีความพยายามากพอที่จะแก้ไขปัญหาทางการค้าอย่างจริงจัง
ในขณะเดียวกันข่าวเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงของสหรัฐฯ สร้างความบาดหมางกับจีนขึ้นมาอีกครั้ง นักลงทุนต่างพากันขายหุ้นแล้วหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยแต่โดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเพิกเฉยท่าทีของจีนและต้องการที่จะอนุมัติกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงต่อไป
อันที่จริงแล้วเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนเริ่มเป็นที่สนใจของผู้คนนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ซึ่งตอนนั้นกราฟ USD/CNY ยังคงอยู่ที่ก้นเหวอยู่ จากนั้นกราฟค่อยๆ ปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั้งถึงเดือนกันยายนที่มีข่าวว่าทั้งสหรัฐฯ – จีนสัญญาว่าจะเซ็นสัญญาร่วมกัน อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นกราฟ USD/CNY ก็ปรับตัวลดลงเรื่อยมา กราฟ USDCNY เกือบรักษารูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง (descending triangle) ของตัวเองได้สำเร็จในวันที่ 30 ตุลาคมแต่สุดท้ายราคาก็หลุดเส้นเทรนไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2018 ได้สำเร็จในวันที่ 31 ตุลาคม
ที่เราวิเคราะห์ว่ากราฟเกือบรักษารูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลงได้แต่ไม่สำเร็จเพราะจุดต่ำสุดของแท่งเทียนในวันที่ 11 ตุลาคม (แท่งเทียนสีเขียวที่อยู่ในวงรี) ยังคงสามารถดีดกลับขึ้นมารักษาแนวโน้มของตัวเองให้อยู่เหนือเส้นประ ถึงตรงนี้นักวิเคราะห์บางคนอาจแย้งว่าพฤติกรรมของราคานั้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อราคาและแสดงให้เห็นถึงไดนามิกของปริมาณการซื้อขายในตลาด
มองอีกด้านหนึ่งหากลองไม่คำนึงถึงการตีความว่ากราฟเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมลู่ลง สุดท้ายแล้วราคาก็สามารถหลุดเทรนไลน์ขาขึ้นระยะยาวลงมาอยู่ดีซึ่งสนับสนุนข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการมองว่ากราฟทะลุลงมาของแนวโน้มขาลง
วันนี้กราฟ USDCNY ได้พยายามดีดตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 8 พฤศจิกายนอีกครั้งแต่แรงขาขึ้นของราคากำลังอ่อนแรง กราฟกำลังพยายามที่จะผ่านเส้นค่าเฉลี่ย DMA 100 แต่แรงซื้อก็ต้องถอยทัพกลับไปซึ่งสังเกตได้จากแท่งเทียนที่ทำรูปแบบ shooting star ตรงบริเวณเส้นประของเทรนไลน์ซึ่งกราฟกำลังสร้างกรอบราคาขาลง สำหรับนักวิเคราะห์ที่มองว่ากรอบราคาสองเดือนระหว่างกันยายนและพฤศจิกายนเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมตอนนี้ให้มองว่าการขึ้นรอบล่าสุดเป็นการปรับฐานของราคาหลังจากที่ทะลุลงไปได้และตอนนี้กราฟกำลังจะยืนยันรูปแบบแนวโน้มขาลงอย่างเต็มตัว
ในขณะเดียวกันกราฟขาขึ้นได้สร้างรูปแบบ Peaks & Troughs ที่มีสองจุดสูงสุดขึ้นมา นับตั้งแต่จุดสุดในวันที่ 4 กันยายน หากเป็นนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงพวกเขาจะรอให้เกิดรูปแบบ Peak & Trough ขึ้นอีกครั้งซึ่งต้องไม่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า มีจุดต่ำสุดที่อยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดในวันที่ 8 พฤศจิกายนและต้องขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA ได้ ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางอาจจะอ้างอิงจุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 14 ตุลาคมและจุดสูงสุดของราคาในวันที่ 16 ตุลาคมเป็นรูปแบบ Peak & Trough ที่กำลังฟอร์มตัวเป็นกราฟแนวโน้มขาลง
โดยสรุปแล้วนักลงทุนในภาพรวมยังเชื่อว่าการเซ็นสัญญาลงนามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนจะยังคงเกิดขึ้น อย่างน้อยในตอนนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวน
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง – ควรรอจนกว่ากราฟจะลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง – อาจรอสัญญาณยืนยันของราคาที่บริเวณแนวต้าน ต้องมีแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่อย่างน้อยหนึ่งแท่งเป็นตัวยืนยัน
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง – สามารถ short ได้ทันทีที่ต้องการหากเห็นว่าจังหวะเข้านั้นเหมาะสมกับแผนการลงทุนของตนเอง
ตัวอย่างการซื้อขาย
- ราคาเข้า: 7.0400
- Stop-Loss: 7.0500
- ความเสี่ยง: 100 pips
- ราคาเป้าหมาย: 7.0700
- ผลตอบแทน: 300 pips
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงตัวอย่างตัวอย่างการซื้อขายพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งไม่ได้รับประกันว่าจะสำเร็จ การประเมินว่าการซื้อขายจะประสบความสำเร็จหรือไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลทางสถิติที่มากเพียงพอ