บทสรุปตลาดฟอเร็กซ์:
การซื้อขาย DXY ในวันศุกร์ ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คู่สกุลเงิน AUD/USD แตะแนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 วัน และคู่สกุลเงิน USD/JPY สามารถหลุดกรอบราคาของรูปแบบแท่งเทียนฮารามิหลังจากเจอแนวต้านใกล้กับจุดสูงสุดของรูปแบบรูปลิ่ม (wedge) ขาลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ยอดขายของผู้ผลิตจีนลดลง -1.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับลดลงที่รวดเร็วตั้งเดือนเดือน ก.ค. 2016 ซึ่งความต้องการของตลาดเริ่มชะลอตัวลงซึ่งเป็นผลสะท้อนมาจาก ข้อมูลของ PMI ที่ภาคการผลิตได้น้อยลง ทั้งยังสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ในทางตรงกันข้ามกับยอดใช้จ่ายของผู้บริโภคกลับขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 8 ปี ถึง 3.8% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยที่ไข้หวัดหมูเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาเนื้อหมูสูงขึ้น
คำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นลดลง -2.9% ในเดือนกันยายน (คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9%) ซึ่งเป็นเดือนที่ติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่สามและทำให้เกิดความกังวลเรื่องการใช้จ่ายทางธุรกิจ
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในนิวซีแลนด์ลดลง -0.6% ในเดือนตุลาคมซึ่งหดตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่พฤษภาคม 2018 ตัวเลขของเดือนกันยายนก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.2% จาก 0.4%
บทสรุปหุ้น:
ตลาดหุ้นสำคัญๆ ในเอเชียส่วนใหญ่ติดลบตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ของการเปิดตลาดซื้อขาย โดยดัชนีที่แย่ที่สุดตกเป็นของดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงที่ร่วงลง -2.20% นับว่าเป็นการขาดทุนที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. 2019
ด้วยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้มาตรการต่อต้านความรุนแรงในฮ่องกงซึ่งตำรวจได้ยิงกระสุนจริง ซึ่งทำให้มีผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บ 1 รายในเช้าวันจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาหลักสำหรับการร่วงลงของหุ้นเอเชียในวันนี้ หลังจากที่พึ่งจะฟื้นตัวจาหเหตุการณ์ที่ “มีสัญญาณที่ดีจากสหรัฐฯ - จีนในเรื่องของข้อตกลงการค้า” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อาลีบาบา (NYSE:BABA) ได้เริ่มต้นกิจกรรมช้อปปิ้งออนไลน์“ Singles Day” ประจำปีซึ่งสามารถใช้เป็นมาตรวัดความสามารถของผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมียอดขายเพียง 27% ซึ่งเป็นยอดที่ต่ำที่สุดสำหรับอาลีบาบาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ASX 200 ของออสเตรเลีย ได้ทะลุแนวต้านขึ้นมารับกำไร 0.72% ซึ่งนำโดยหุ้นของกลุ่มดูแลสุขภาพ เช่น CSL และ Resmed ที่ได้พุ่งขึ้น 2.1% และ 1.7% ในขณะที่หุ้นในกลุ่มปัจจัยพื้นฐานทำได้ไม่ดีนัก เช่น Rio Tinto (LON:RIO) และ Fortescue Metals ปรับลด -1.7% และ -3.7% ตามลำดับ
ตลาดซื้อขายล่วงหน้า E-mini ที่อิงการเคลื่อนไหวราคาตาม S&P 500 ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จากอาเซียนทำให้ปรับลดถึง -0.28% ในวันนี้ทำให้เส้นกราฟระหว่างวันปรับลดไปอยู่ที่ 3081 หลังจากที่ปิดตลาดบวกในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายในตลาดสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา