โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2019
ตลาดฟอเร็กซ์สัปดาห์นี้มีความผันผวนค่อนข้างมาก เนื่องจากสกุลเงินต่างๆ เคลื่อนไหวไปตามทิศทางของกระแสข่าวทั้งในด้านบวกและด้านลบ นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลว่าหลังจากที่สหรัฐฯ และจีนได้มีการเจรจากันไปเพียงวันเดียว คณะเจ้าหน้าที่จากจีนจะเดินทางกลับเลยในคืนวันเดียวกันนั้นหรือเช้าวันรุ่งขึ้นเลยหรือไม่ เนื่องจากไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าผลการเจรจาจะออกมาเป็นอย่างไร ความไม่แน่นอนนี้มีมากถึงขนาดที่ทำให้นักวิเคราะห์บางคนถึงกับสังเกตอากัปกิริยาภาษากายของเจ้าหน้าที่ทุกคนในขณะที่เดินทางมาถึงกันเลยทีเดียว ในช่วงปิดการซื้อขายของตลาดนิวยอร์ค ดอลลาร์สหรัฐยังคงทะยานขึ้นได้หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่าเขาจะเข้าพบ “รองประธานาธิบดีในวันศุกร์นี้ที่ทำเนียบขาว” อย่างไรก็ตามจากข้อความในทวีตเดียวกัน เขายังทิ้งท้ายไว้ให้ตลาดเกิดความสงสัยด้วยว่า “พวกเขาอยากจะต่อรองเพื่อสร้างข้อตกลง แต่ผมต้องการอย่างนั้นด้วยหรือเปล่า?”
ผลการเจรจาทางการค้าในครั้งนี้ยังคงไม่มีใครทราบ ภายในอีก 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ อาจมีเรื่องราวให้คาดไม่ถึงเกิดขึ้นอีกก็ได้ หากประธานาธิบดีทรัมป์ยอมตกลงรับข้อเสนอบางส่วนกับจีน USD/JPY ก็น่าจะดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนได้ใกล้กับระดับ 108.50 ส่วนเงินสกุลหลักอื่นๆ ก็น่าจะได้รับประโยชน์จากการที่นักลงทุนเริ่มอยากเข้าเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างๆ มากขึ้นด้วย โดย EUR/USD ก็น่าจะไปทดสอบที่ระดับ 1.1050 ส่วน AUD/USD ก็น่าจะพุ่งไปที่ .6850 แต่หากการเจรจาในครั้งนี้ไม่เป็นผล และจีนเดินทางกลับทันทีโดยไร้ซึ่งข้อตกลงระหว่างกัน เราอาจได้เห็นการกลับตัวอย่างรวดเร็วของ USD/JPY ที่เพิ่งจะฟื้นตัวขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี โดย AUD/USD น่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในขณะที่เรายังไม่ควรคาดหวังอะไรในตอนนี้ แต่การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยินดีที่จะเข้าพบรองประธานาธิบดีหลิว เหอในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณว่าน่าจะมีข่าวดีเกิดขึ้น และยังเป็นโอกาสดีที่จะดึงความสนใจของสื่อมวลชนต่างๆ จากเรื่องการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งได้อีกทางหนึ่งด้วย
ข้อตกลงทางการค้ายังน่าจะช่วยลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐน จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ลงด้วย แรงกดดันในด้านราคาเริ่มเบาบางลงเมื่อพิจารณาจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่รายงานออกมาล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แรงกดดันในด้านอัตราเงินเฟ้อในเดือนกันยายนยังคบซบเซาอยู่ ดัชนีราคาผู้บริโภคไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แม้ว่าดัชนีราคาด้านอาหารและพลังงานในเดือนก่อนจะสูงกว่าเดือนนี้อยู่เล็กน้อยก็ตาม รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงแทบจะไม่ส่งผลใดๆ กับค่าเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้เลยเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกนั้นยังแขวนไว้กับผลการเจรจาทางการค้าในครั้งนี้มากกว่า
ขณะเดียวกัน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสันและนายกรัฐมนตรีวาราดการ์ของไอร์แลนด์กล่าวว่า “เริ่มเห็นหนทาง” ในการสร้างข้อตกลงเพื่อนำอังกฤษออกจากอียูแล้วนั้น สเตอร์ลิงก็ปรับตัวขึ้นได้มากกว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดอื่นใดเปิดเผยออกมา แต่สำนักข่าว Sky News รายงานว่าอังกฤษได้ยื่นข้อเสนอให้มีการค้าเสรีแบบจำกัด การเจรจาดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่นครบรัสเซลส์โดยนายบาร์เคลย์ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการการแยกตัวออกจากยุโรปจะเข้าพบกับนายบาร์เนีย หัวหน้าทีมเจรจาจากอียู เราคาดว่าน่าจะมีข้อเสนอบางอย่างที่ทำให้อียูพึงพอใจได้ แต่นักลงทุนต้องการเพียงแค่ข่าวดีเพียงอย่างเดียว เพราะราคาจะมีทิศทางที่เป็นบวกได้ก็ต่อเมื่อมีข่าวดีเกิดขึ้นเท่านั้น แต่แน่นอนว่าความเชื่อมั่นนี้อาจพลิกผันไปได้อย่างรวดเร็วหากเยอรมนีหรืออียูเริ่มเกิดความระแคะระคายในข้อเสนอดังกล่าว ดังนั้นเราขอแนะนำให้อย่าเพิ่งด่วนเปิดสถานะใดๆ ในตอนนี้จนกว่าจะทราบผลการเจรจาเสียก่อน
EUR/USD มีการซื้อขายกันที่ระดับเหนือกว่า 1.10 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ แม้ว่าตัวเลขบัญชีเดินสะพัดและดุลการค้าของเยอรมนีจะยังต่ำกว่าเป้า รวมทั้งกรรมการหลายคนของธนาคารกลางยุโรปก็ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเห็นว่าควรใช้วิธีดังกล่าวเป็นทางเลือกสุดท้าย อย่างไรก็ตามเมื่อประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคอย่างเยอรมนีกำลังจะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ จึงทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า EUR/USD จะฟื้นตัวได้อีกนานเพียงใด นักลงทุนและธนาคารกลางยุโรปต่างก็หวังว่ารัฐบาลเยอรมนีจะนำนโยบายทางการเงินมาใช้เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจ แต่จากความคิดเห็นของนายโชลส์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนีที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ว่าเยอรมนีได้มีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงน่าจะยังไม่ใช้มาตรการอื่นอีกในขณะนี้
สกุลเงินที่แปรผันตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสามสกุลยังคงซื้อขายกันได้ในระดับที่สูงขึ้นในวันพฤหัสบดีเนื่องจากมีความหวังที่จะเห็นผลการเจรจาทางการค้าออกมาดี แต่สำหรับ ดอลลาร์แคนาดายังควรจับตาต่อในวันศุกร์ รายงานตัวเลขตลาดแรงงาน ซึ่งมีกำหนดที่จะประกาศออกมาให้ทราบในวันศุกร์นั้น นักเศรษฐศาสตร์ต่างก็พยากรณ์ว่าปริมาณการจ้างงานจะชะลอตัวลง จากข้อมูลดัชนี PMI ของ IVEY องค์กรธุรกิจในแคนาดามีการปรับลดจำนวนพนักงานลงมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา USD/CAD ควรที่จะฟื้นตัวขึ้นจากตัวเลขในรายงานที่จะประกาศในวันศุกร์ได้ แต่มีการคาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะไม่มากนัก ดังนั้นดอลลาร์แคนาดาจะปรับตัวได้แรงเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ออกมาว่าจะทำให้เกิดความตื่นเต้นตกใจได้มากขนาดไหนเท่านั้นเอง