โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2019
เมื่อคณะผู้แทนจากจีนเดินทางมาถึงสหรัฐฯ เพื่อการเจรจาทางการค้ารอบใหม่ ดอลลาร์สหรัฐก็ยังปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ คณะผู้แทนจากจีนในครั้งนี้ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่และมาจากหลายภาคส่วนมากที่สุดจากจำนวน 13 รอบที่เคยส่งมาเพื่อการเจรจานับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา นักลงทุนจึงเห็นเป็นสัญญาณที่ดีว่าจีนน่าจะต้องการปิดดีลในครั้งนี้ให้ได้ แต่อย่าเพิ่งรีบวางใจ เพราะในวันเดียวกันกับที่คณะผู้แทนจากจีนบินมาถึงสหรัฐฯ รัฐบาลของทรัมป์ได้ทำการขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนจำนวน 28 บริษัท โทษฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งได้ประกาศห้ามรับวีซ่าของเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักกันชาวมุสลิมจำนวนมากในจังหวัดซินเจียงของจีน นายปีเตอร์ นาวาร์โร ประธานสภาการค้าของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกัน แต่ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นพอดีกันอาจส่งผลกระทบกับการเจรจาทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศได้ ในขณะที่นักลงทุนในตลาดเงินคาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีการซื้อขายกันเบาบาง แต่ปรากฏว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเลือกที่จะเล่นไม้แข็งแทนเสียแล้ว
การที่ตลาดหุ้นและพันธบัตรเกิดการเทขายออกมาในช่วงนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่านักลงทุนยังไม่เชื่อว่าการเจรจาของทั้งสองประเทศในรอบนี้จะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเพียงบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม แม้ว่าเมื่อดูจากจำนวนคณะเจ้าหน้าที่ที่จีนส่งมาในครั้งนี้จะดูเหมือนว่าจีนมีความจริงจังและมุ่งมั่นที่จะทำให้การเจรจาในครั้งนี้บรรลุผลมากกว่าครั้งใดๆ รวมทั้งก่อนหน้านี้ฝั่งของทรัมป์ก็เคยบอกว่าการเจรจาใกล้จะบรรลุข้อตกลงเต็มทีแล้วก็ตาม แต่พฤติกรรมที่คาดเดาได้ยากของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงเป็นความเสี่ยงหลักสำหรับค่าเงินดอลลาร์อยู่ ในขณะนี้เราเพียงต้องรอการยืนยันจากทรัมป์ว่าทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้แล้วจริง ซึ่งก็จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ไต่ขึ้นต่อไปได้ แต่เมื่อการกระทำยังคงสำคัญกว่าคำพูด การที่ทรัมป์ยิ่งปิดปากเงียบไปอีกนานเพียงใด ก็ยิ่งหมายความว่าดอลลาร์จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่จะส่งผลเสียกับค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ อีกอย่างหนึ่งก็คือมาตรการการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล นายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ธนาคารฯ กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดการควบคุมดุลบัญชีเงินทุนสำรองอยู่ แม้ว่าเขาจะกล่าวว่ามาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่ก็ยากที่จะแปลความเป็นอย่างอื่นได้ เพราะเป้าหมายของการนำดำเนินนโยบายนี้ก็คือการช่วยพยุงเศรษฐกิจ ความคิดเห็นโดยทั่วไปของเขาในครั้งนี้ดูจะเป็นไปในทางลบอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับครั้งก่อน เนื่องจากเริ่มรับรู้แล้วว่าปริมาณการจ้างงานที่ชะลอตัวลง รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจจากทั่วโลกกำลังเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากขึ้น รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่จะประกาศออกมาให้ทราบในวันพรุ่งนี้นั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบกับค่าเงินดอลลาร์ แต่ขอให้เฝ้าระวังการตอบโต้ของจีนที่อาจเกิดขึ้นได้ไว้ให้ดีด้วย
ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ ยังคงได้รับแรงกดดันอยู่เนื่องจากนักลงทุนยังไม่เข้าใจกับกระแสข่าวที่ค่อนข้างขัดแย้งกันในปัจจุบัน ส่วนข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนก็ดีกว่าที่คาดไว้ โดยดัชนีภาคการผลิตของไฉซิน ยังปรับตัวสูงขึ้น ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ของออสเตรเลียปรับตัวลดลง แต่ดัชนีภาคธุรกิจดีขึ้น ด้าน USD/CAD ยังทรงตัวในแดนบวกได้แม้ว่า ตัวเลขจำนวนการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของแคนาดา จะสูงขึ้นก็ตาม
แต่ทางด้านของ ยูโร และ สเตอร์ลิง กลับร่วงหนัก ตัวเลขในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีดีกว่าที่คาดไว้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรความเสี่ยงที่อังกฤษจะต้องแยกตัวออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลงก็ยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ การเจรจากันระหว่างนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักรกับนายกรัฐมนตรีแมร์เคิลของเยอรมนีนั้นดูเหมือนว่าจะพบกับทางตัน แหล่งข่าวระบุว่าข้อตกลงที่สหราชอาณาจักรเสนอไปนั้นแทบจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย ความตึงเครียดจึงตกไปอยู่กับนายโดนัลด์ ตุสก์ ประธานคณะกรรมมาธิการยุโรปซึ่งกล่าวโทษสหราชอาณาจักรว่ากำลังโยนความผิดให้กับคนอื่น รวมทั้งยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหราชอาณาจักรต้องสั่นคลอนโดยใช้เครื่องมือเป็นข้อความทางทวิตเตอร์ การที่ทั้งสองฝ่ายยังเป็นปรปักษ์ต่อกันอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายคงจะไม่สามารถลุล่วงไปได้ด้วยดี เว้นเสียแต่ว่านายจอห์นสันจะยอมขอเลื่อนกำหนดการแยกอังกฤษออกจากอียู GBP/USD จึงอาจจะไปอยู่ที่ระดับ 1.20 ได้