เมื่อพูดถึงคำว่านักลงทุนทุกคนคงทราบดีว่าในโลกนี้มีนักลงทุนอยู่หลายประเภทตั้งแต่คนที่สามารถนั่งเฝ้ากราฟได้ทั้งวันไปจนถึงคนที่ไม่มีเวลาดูกราฟเลย บางคนชอบที่จะซื้อครั้งเดียวและถือไปตลอดชีวิต เมื่อพูดถึงนักลงทุนสายนี้เราก็มีตัวอย่างอยู่หลายคนอย่างเช่นพ่อมดการเงินที่ใครๆ ก็รู้จักดีอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์หรือนายฟิลิป ฟิชเชอร์ ที่เขียนในหนังสือ “Common Stocks and Incommon Profits” ของเขาว่า “เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการขายหุ้นของเขา = ไม่มี”
หากเป้าหมายในการลงทุนของคุณคือการสร้างรายได้ที่มั่นคงเพื่อเอาไว้ใช้ในชีวิตวัยเกษียณแล้วการเลือกถือหุ้นบางตัวที่อยู่ในกลุ่ม “หุ้นอมตะ” ถือว่าเป็นทางออกที่ดีเพราะนอกจากคุณจะมั่นใจได้เลยว่าจะได้เงินปันผลคืนจากหุ้นเหล่านี้อยู่ตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจแล้วคุณยังสามารถนำเงินที่ได้มาลงทุนซ้ำเพิ่มพลังการลงทุนของคุณให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี ที่จริงแล้วผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทเข้าของหุ้นเหล่านี้คือสิ่งที่เรารู้จักและพบเห็นในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว หากคุณเป็นนักลงทุนในกลุ่มนี้ 3 หุ้นที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้คือทางออกของคุณ
1. Coca Cola
แบรนด์เครื่องดื่มน้ำสีดำที่หยิบมาดื่มเมื่อไหร่ก็ชื่นใจได้อยู่ตลอดอย่างโคคาโคลา (NYSE:KO) คือหุ้นกลุ่มอมตะตัวแรกที่เราเลือกมา ในยุคนี้การที่เราจะหาหุ้นสักตัวที่สามารถปันผลได้ยาวนานกว่าศตวรรษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เครื่องดื่มยี่ห้อโค้กหากว่ากันตามประวัติศาสตร์แล้วมีอายุมายาวนานถึง 128 ปีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายอดขายน้ำอัดลมสีดำไม่เคยลดลงแม้ว่าจะต้องผ่านวิกฤตสงครามโลกมาแล้วก็ตาม
แม้ว่ายอดขายของโคคาโคลาจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ต่างจากบริษัทอื่นเพราะธุรกิจสวนสนุกและโรงหนังของโคคาโคลาจำต้องหยุดให้บริการชั่วคราว แต่เพราะบริษัทยังมีตัวเลขงบดุลที่แข็งแกร่งและการจัดการที่ดีจึงทำให้โคคาโคลามีสภาพคล่องเพียงพอต่อการฝ่าวิกฤตโรคระบาดไปได้ ที่สำคัญโคคาโคลาถือเป็นบริษัทที่ปรับตัวเก่งอีกด้วย ในยุคที่คนเริ่มบริโภคเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีน้ำตาลน้อยลง โคคาโคลาก็ได้ออกเครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาลออกมาเพิ่มยอดขายซึ่งได้ใจผู้บริโภคสายสุขภาพเข้าไปอีก ในแง่ของเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ โค้กก็ได้ไปลงทุนในเครื่องดื่มอย่างเช่น Honest Tea, Fairlife dairy และ Suja Life LLC
ปัจจุบันหุ้นของโคคาโคลามีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $50.79 มีเปอร์เซนต์การปันผลต่อปีอยู่ที่ 3.41% แม้ตัวเลขอาจดูแล้วไม่ตื่นเต้นแต่นี่คือบริษัทที่สามารถปันผลติดต่อกันได้ยาวนานที่สุด 56 ปีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน การปันผลรายไตรมาสของโคคาโคลาก็เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่แล้วเป็นสองเท่าจนปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ที่ $0.41
2. Nike
แบรนด์เจ้าของผลิตภัณฑ์กีฬาชื่อดังไนกี้ (NYSE:NKE) คืออีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับหุ้นที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มอมตะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ในช่วงโควิดที่ผ่านมาไนกี้ยังสามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงินเอาไว้ได้แม้ว่าจะได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ก็ตาม
จุดแข็งของแบรนด์ไนกี้ โมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและการปรับตัวที่รวดเร็วคือ 3 จุดแข็งสำคัญของบริษัทไนกี้ในช่วงวิกฤตโรคระบาด การเปลี่ยนกลยุทธ์มาเน้นการขายผ่านออนไลน์หรือโลก E-commerce ในช่วงโควิดสามารถชดเชยกำไรที่หายไปจากหน้าร้านที่ถูกปิดชั่วคราว CEO ของไนกี้นาย John Donahoe บอกกับนักลงทุนว่าการค้าขายผ่าน E-commerce ของไนกี้กำลังอยู่บนเส้นทางของการเติบโตแม้ว่าจะมีปัญหาในเรื่องกำลังซื้อหายไปบ้างในช่วงโควิดก็ตาม
ไม่ใช่แค่เฉพาะเราเท่านั้นแต่นักวิเคราะห์ชื่อดังในตลาดบางท่านก็ได้แนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นของไนกี้เอาไว้แม้ว่าตัวเลขในรายงานผลประกอบการรอบล่าสุดจะหดลงเพราะร้านค้าถูกสั่งปิดให้บริการชั่วคราวซึ่งเหตุผลสนับสนุนความดีของไนกี้ก็คือบริษัทยังอยู่ในจุดที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว แบรนด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบของบริษัทมากขึ้น
นักวิเคราะห์จากสถาบันให้คำแนะนำการลงทุน Telsey นาง Cristina Fernandez กล่าวว่า “แนวโน้มหลักของโลกที่กำลังพึ่งพาโลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยเพิ่มยอดขายและมาร์จิ้นการลงทุนให้กับไนกี้ได้อีกหลายปีข้างหน้า”
เมื่อวานนี้ราคาซื้อขายหุ้นไนกี้ล่าสุดมีตัวเลขอยู่ที่ $118.59 สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมที่ $60.58 ได้อย่างแข็งแกร่ง หากว่านักลงทุนเห็นหุ้นไนกี้ย่อลงมาอีกให้หาจังหวะเข้าซื้อสะสมเอาไว้เรื่อยๆ ปัจจุบันไนกี้มีตัวเลขการปันผลในแต่ละไตรมาสอยู่ที่ $0.245 มีเปอร์เซนต์การปันผลอยู่ที่ 0.80% ซึ่งเติบโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2004
3. Verizon Communications
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลและเร็วเท่าไหร่เราจะเห็นว่าการสื่อสารโดยเฉพาะผ่านอินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งที่สุดท้ายที่ผู้บริโภคจะเลือกตัดทิ้งไป ดังนั้นการเลือกหุ้นของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับโทรคมนาคมจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นครั้งเดียวและถือหุ้นเอาไว้นานๆ เวอไรซอน คอมมิวนิเคชัน (NYSE:VZ) ผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาจึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับหุ้นกลุ่มนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีการปันผลที่มั่นคงมาตลอดด้วยสถิติเพิ่มตัวเลขการปันผลมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี
นับตั้งแต่หุ้นของบริษัทเวอไรซอนเริ่มเปิดให้ทำการซื้อขายได้ในปี 2000 อัตราการปันผลของหุ้นบริษัทได้เติบโตขึ้นมากกว่า 50% และมีตัวเลขการปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ $0.6275 ปัจจุบันหุ้นของเวอไรซอนมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $60.37 มีตัวเลขเปอร์เซนต์การปันผลต่อปีอยู่ที่ 4.14% ซึ่งดูแล้วไม่ได้เลวร้ายนักเมื่อเทียบกับการปันผลเฉลี่ยจาก S&P 500 ที่ 1.7%
ตอนนี้สิ่งที่เวอไรซอนคิดจะทำต่อไปคือการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ซึ่งตอนนี้ใครๆ ก็ต่างประโคมข่าวถึงความสามารถของ 5G ว่าจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของมนุษยชาติไปตลอดกาลไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของรถไร้คนขับ การศัลยกรรมทางไกล บ้านอัจฉริยะ ฯลฯ
โดยสรุปแล้ว
หากต้องการลงทุนครั้งเดียวและอยู่ยาวๆ ไปตลอดชีวิตการลงทุนในหุ้นทั้ง 3 ตัวที่เราได้แนะนำไปคือตัวเลือกที่ดี หุ้นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สามารถฝ่าวิกฤตสำคัญหลายๆ ครั้งของโลกมาได้ถือเป็นหุ้นที่คู่ควรแก่การซื้อสะสมในยามที่ราคาปรับลดลงมาเป็นอย่างยิ่ง