นายกรัฐมนตรีไทยเผชิญกับการขับไล่ในคําตัดสินของศาล

กรุงเทพฯ - ศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทยมีกําหนดจะตัดสินครั้งสําคัญในวันพุธ ซึ่งอาจนําไปสู่การปลดนายกรัฐมนตรี ศรัฐธาวิสินทร์ ซึ่งอาจทําให้ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศลึกซึ้งยิ่งขึ้น Srettha ผู้มาใหม่ในฉากการเมืองที่มีพื้นฐานด้านอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาจากอดีตวุฒิสมาชิกซึ่งอ้างว่าเขาละเมิดรัฐธรรมนูญโดยการแต่งตั้งสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เคยถูกคุมขังมาก่อน

การโต้เถียงมีศูนย์กลางอยู่ที่การแต่งตั้ง Pichit Chuenban ทนายความที่เกี่ยวข้องกับตระกูล Shinawatra ผู้มีอิทธิพลในคณะรัฐมนตรีของเขา ชวนบันถูกจําคุกช่วงสั้น ๆ ในปี 2008 ในข้อหาดูหมิ่นศาลท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการกระทําผิดในการแต่งตั้ง

คําตัดสินของศาลคาดว่าจะประกาศในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น มาถึงช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนสําหรับเศรษฐกิจไทย ซึ่งคาดการณ์การเติบโตที่ซบเซาที่ 2.7% สําหรับปี 2567 ตามหลังประเทศในภูมิภาค ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน โดยเป็นตลาดหุ้นที่แย่ที่สุดในเอเชีย โดยลดลง 17% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

หาก Srettha ถูกถอดออกจากตําแหน่ง รัฐสภา 500 ที่นั่งจะได้รับมอบหมายให้เลือกผู้นําคนใหม่ ซึ่งอาจนําไปสู่ความไม่มั่นคงทางการเมืองต่อไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการยุบพรรค Move Forward Party ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการจัดตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยศาลเดียวกันโดยอ้างถึงความเสี่ยงต่อระบอบกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ พรรคได้ปฏิรูปภายใต้ชื่อใหม่

การปลดนายศรีธาอาจทดสอบข้อตกลงที่เปราะบางระหว่างทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และศัตรูของเขาในชนชั้นนําอนุรักษ์นิยมและกองทัพ การสงบศึกนี้ทําให้ทักซินยุติการเนรเทศตนเองเป็นเวลา 15 ปีในปี 2023 และอํานวยความสะดวกในการขึ้นสู่อํานาจของศรีรธา

รองนายกรัฐมนตรี Phumtham Wechayachai คาดว่าจะทําหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวหาก Srettha ถูกปลด นักวิเคราะห์การเมืองอย่าง โอลันน์ ธินบังเตียว จากมหาวิทยาลัยบูรพาคาดการณ์ว่าพรรคเพวไทยแม้จะมีความไม่แน่นอน แต่ก็มีแนวโน้มที่จะรักษาความสามารถในการเป็นผู้นํารัฐบาลชุดต่อไป เนื่องจากมีแนวร่วมที่แข็งแกร่งในรัฐสภา

เมื่อมองไปข้างหน้า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะต้องได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งปี 2023 ในบรรดาคู่แข่งที่เป็นไปได้จากพรรค Pheu Thai คือ Paetongtarn Shinawatra ลูกสาวของทักษิณ

หากเธอประสบความสําเร็จ Paetongtarn จะเป็นสมาชิกคนที่สามของตระกูล Shinawatra ที่ดํารงตําแหน่งต่อจากพ่อและป้าของเธอ ผู้สมัครที่มีศักยภาพคนอื่นๆ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อนุทิน จรรวิรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปิรพรรณ ศาลิราธีบากา และประวิทย์ วงศ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบกที่มีอิทธิพลในการรัฐประหารที่ผ่านมา

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน