การเรียกผลประกอบการ: Pitney Bowes เน้นย้ําถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และไตรมาสที่มั่นคง

Pitney Bowes Inc. (PBI) บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกได้รายงานความสําเร็จในไตรมาสที่สองของปี 2024 โดยมีผลประกอบการทางการเงินที่มั่นคงและการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ที่สําคัญ บริษัทได้เสร็จสิ้นการทบทวนเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลก (GEC) ส่งผลให้มีการขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับ Hilco Global และการชําระบัญชีอย่างเป็นระเบียบที่คาดว่าจะผ่านกระบวนการบทที่ 11

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Pitney Bowes มี EBIT ที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 46 ล้านดอลลาร์ และกระแสเงินสดอิสระที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้น 94 ล้านดอลลาร์จากปีที่แล้วเป็น 83 ล้านดอลลาร์ รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 793 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้จะคาดว่าจะขาดทุนก่อนหักภาษีจากการออกจาก GEC แต่ Pitney Bowes ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจหลัก รวมถึง SendTech, Presort และ Pitney Bowes Bank

ประเด็นสําคัญ

• Pitney Bowes เสร็จสิ้นการทบทวนเชิงกลยุทธ์และขายหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจ GEC โดยจะเสร็จสิ้นการชําระบัญชีในต้นปี 2025
• บริษัทรายงาน EBIT ที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 43% เป็น 46 ล้านดอลลาร์ และกระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้น 94 ล้านดอลลาร์เป็น 83 ล้านดอลลาร์
• รายได้รวมสําหรับไตรมาสที่สองอยู่ที่ 793 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
• รายได้ของ SendTech อยู่ที่ 320 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่มี EBIT ที่ดีขึ้นที่ 101 ล้านดอลลาร์
• รายได้จากรีสอร์ท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 147 ล้านดอลลาร์ และ EBIT เพิ่มขึ้น 32% เป็น 27 ล้านดอลลาร์
• Pitney Bowes กําลังริเริ่มการออมเงิน 70 ล้านดอลลาร์ต่อปีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุง
• คําแนะนําทั้งปี 2024 คาดว่ารายได้จะลดลงในแนวราบถึงต่ําสุดในตัวเลขเดียว โดยคาดการณ์ EBIT ระหว่าง 340 ล้านถึง 355 ล้านดอลลาร์

แนวโน้มบริษัท

• Pitney Bowes คาดว่าจะขาดทุนก่อนหักภาษีประมาณ 200 ล้านดอลลาร์จากการออกจาก GEC แต่คาดการณ์การสูญเสียภาษีเพื่อลดผลกระทบ
• บริษัทอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและมองเห็นโอกาสมากมายสําหรับการเติบโตและการปรับปรุง
• คําแนะนําทั้งปีที่อัปเดตสําหรับปี 2024 รวมถึงรายได้ที่คงที่จนถึงระดับต่ําสุดที่ลดลงเพียงหลักเดียว และ EBIT อยู่ระหว่าง 340 ล้านถึง 355 ล้านดอลลาร์

ไฮไลท์ Bearish

• บริษัทคาดว่าจะขาดทุนก่อนหักภาษีประมาณ 200 ล้านดอลลาร์เนื่องจากการออกจาก GEC
• รายได้ของ SendTech ลดลง 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ไฮไลท์ Bullish

• การปรับปรุงผลกําไรอย่างมีนัยสําคัญด้วย EPS ที่ 0.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น
• กระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่ง 83 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส
• ธุรกิจ Presort และรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งของ SendTech ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการขยายตัวในอนาคต

พลาด

• บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเงินสดเพียงครั้งเดียว 150 ล้านดอลลาร์สําหรับการเลิกจ้าง การยกเลิกสัญญาเช่า และค่าใช้จ่ายในการเลิกจ้างอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกจาก GEC

ไฮไลท์ Q&A

• ผู้บริหารคาดว่าจะบรรลุการประหยัดรวมต่อปีในช่วง 120 ล้านถึง 160 ล้านดอลลาร์
• ครึ่งหลังของปีจะสะท้อนให้เห็นถึงประมาณครึ่งหนึ่งของการลดต้นทุน 70 ล้านดอลลาร์
• การขายกิจการของ GEC และค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องจะได้รับเงินทุนจากกระแสเงินสดอิสระจากการดําเนินงานและเงินสดในงบดุล
• Pitney Bowes รักษากระบวนการบริหารความเสี่ยงโดยละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดมากเกินไปในด้านธุรกิจหลัก

Pitney Bowes ด้วยการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ออกจากกลุ่ม GEC กําลังมุ่งเน้นความพยายามอีกครั้งในธุรกิจหลักที่ทํากําไรได้และการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน ผู้นําของบริษัทได้แสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในศักยภาพการเติบโตของ SendTech และ Presort ตลอดจนความมั่นคงของ Pitney Bowes Bank ด้วยเส้นทางที่ชัดเจนและผลการดําเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ Pitney Bowes ดูเหมือนจะพร้อมที่จะนําทางการเปลี่ยนแปลงและแข็งแกร่งขึ้นในตําแหน่งทางการตลาด

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน