วอลล์สตรีทไต่อันดับเนื่องจากข้อมูลการค้าปลีกช่วยเพิ่มความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

วอลล์สตรีทพร้อมสําหรับการเปิดตลาดที่สูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากตัวเลขยอดค้าปลีกล่าสุดบ่งชี้ถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนจะรักษาความคาดหวังของนักลงทุนสําหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ภายในปี

ในเวทีรายได้ขององค์กร Bank of America รายงานกําไรไตรมาสที่สองลดลงเนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงและการตั้งสํารองการขาดทุนด้านเครดิตที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้น Bank of America เพิ่มขึ้น 1.7% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด เนื่องจากธนาคารคาดการณ์รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในเชิงบวก

ในทางกลับกัน หุ้นของ Morgan Stanley ลดลง 2.6% หลังจากบริษัทรายงานรายได้จากการบริหารความมั่งคั่งที่ต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ ในทํานองเดียวกัน Charles Schwab ซึ่งจดทะเบียนในชื่อ NYSE:SCHW พบว่าหุ้นลดลง 5% หลังจากประกาศผลประกอบการ

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่ายอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายนคงที่ ซึ่งท้าทายการคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3% ไม่รวมรถยนต์ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ แม้จะมีข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ผู้ค้าในตลาดยังคงเดิมพันอย่างมากกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนกันยายน โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ถึงความน่าจะเป็นเกือบ 88%

นักลงทุนได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่บริษัทขนาดเล็ก ดังที่เห็นได้จากฟิวเจอร์สที่เพิ่มขึ้น 1.2% ตาม Russell 2000 ซึ่งปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากการกระจายความเสี่ยงจากหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเพิ่มขึ้นของ Wall Street ในปีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones Industrial Average ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและความเชื่อมั่นของตลาดหลังจากความพยายามลอบสังหารผู้สมัครชิงตําแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการชุมนุมหาเสียงเมื่อวันเสาร์

ความคิดเห็นล่าสุดของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell ถือเป็นสัญญาณผ่อนคลาย ตอกย้ําความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อกําลังเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง

แม้จะมีการพุ่งขึ้นในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ในวันจันทร์ แต่ก็มีการถดถอยในวันนี้ โดย Trump Media & Technology Group และ Phunware ประสบกับการขาดทุน 9% และ 3.8% ตามลําดับ

ก่อนเปิดตลาด ดัชนี Dow e-minis เพิ่มขึ้น 139 จุด S&P 500 e-minis เพิ่มขึ้น 14.25 จุด และ Nasdaq 100 e-minis เพิ่มขึ้น 68 จุด

ในข่าวอื่น ๆ UnitedHealth Group ซึ่งซื้อขายในชื่อ NYSE:UNH เห็นหุ้นเพิ่มขึ้น 2.5% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนหลังจากที่บริษัทรายงานผลกําไรในไตรมาสที่สองที่เกินความคาดหมาย แม้ว่าจะคาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบมากขึ้นต่อกําไรประจําปีจากการโจมตีทางไซเบอร์เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์

Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Tinder เห็นหุ้นเพิ่มขึ้น 6.2% ท่ามกลางรายงานว่านักลงทุนนักเคลื่อนไหว Starboard ได้เข้าซื้อหุ้นมากกว่า 6.5% ในบริษัท และสนับสนุนการขายหากกลยุทธ์การพลิกฟื้นไม่ประสบความสําเร็จ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน