หุ้นทอร์ริดพุ่งขึ้นจากผลประกอบการ แม้ว่ายอดขายจะลดลง

CITY OF INDUSTRY, CALIF. - Torrid Holdings Inc. (NYSE: CURV) แบรนด์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับชั้นนําสําหรับผู้หญิงขนาด 10 ถึง 30 ปี รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2024 โดยมีกําไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 0.12 ดอลลาร์ สูงกว่าฉันทามติของนักวิเคราะห์ที่ 0.07 ดอลลาร์ แม้จะพลาดการคาดการณ์รายได้เล็กน้อย แต่ราคาหุ้นของบริษัทก็พุ่งสูงขึ้น โดยปิดเพิ่มขึ้น 9% เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวขึ้นจากความประหลาดใจของผลประกอบการ

สําหรับไตรมาสแรก Torrid รายงานยอดขายสุทธิ 279.8 ล้านดอลลาร์ลดลง 4.8% จาก 293.9 ล้านดอลลาร์ที่รายงานในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับฉันทามติของนักวิเคราะห์ที่ 280.16 ล้านดอลลาร์ ยอดขายเทียบเคียงสําหรับไตรมาสนี้ลดลง 9% อย่างไรก็ตาม รายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.2 ล้านดอลลาร์ อัตรากําไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเป็น 41.3% เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 37.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนผลิตภัณฑ์ที่ลดลงและยอดขายสินค้าราคาปกติที่เพิ่มขึ้น

Lisa Harper ซีอีโอของ Torrid แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลลัพธ์ว่า "เราพอใจกับการเริ่มต้นปีงบประมาณ 2024 ของเรา ในไตรมาสแรก เราส่งมอบ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วสูงกว่าที่คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของอัตรากําไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ยังคงมุ่งเน้นที่การควบคุมระดับสินค้าคงคลังอย่างเข้มงวด ลูกค้าของเราตอบสนองในเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงการจัดประเภทอย่างต่อเนื่องของเราซึ่งนําไปสู่การเข้าชมและยอดขายที่ดีขึ้นตลอดทั้งไตรมาส"

เมื่อมองไปข้างหน้า Torrid ได้ให้คําแนะนําสําหรับทั้งปีงบประมาณ 2024 โดยคาดการณ์ยอดขายสุทธิระหว่าง 1.135 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.155 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่เหนือฉันทามติของนักวิเคราะห์ที่ 1.142 พันล้านดอลลาร์ การคาดการณ์ของบริษัทสําหรับ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ระหว่าง 109.0 ล้านดอลลาร์ถึง 116.0 ล้านดอลลาร์สําหรับปี

ผลประกอบการที่เป็นบวกของบริษัทในไตรมาสแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด ได้สร้างความมั่นใจให้กับปีงบประมาณ แม้จะมีความท้าทายที่เกิดจากยอดขายที่ลดลงและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคในวงกว้าง ความสามารถของ Torrid ในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ในขณะที่ยังคงสร้างผลกําไรได้สะท้อนกับนักลงทุนอย่างชัดเจนโดยเห็นได้จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญหลังจากการประกาศผลประกอบการ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน