รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นเอเชียร่วง คาดว่าจะขาดทุนเดือนก.ย. แนวโน้มเศรษฐกิจซบเซา

เผยแพร่ 30/09/2565 12:10
อัพเดท 30/09/2565 13:55
© Reuters

โดย Ambar Warrick

Investing.com – หุ้นเอเชียร่วงลงในวันศุกร์และขาดทุนอย่างหนักรายเดือนเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่แย่ลงและสัญญาณจากธนาคารกลางรายใหญ่หลายรายที่เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ทำลายความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง

หุ้นในภูมิภาคร่วงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในการซื้อขายข้ามคืนเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำให้เศรษฐกิจซบเซา หุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยตลาดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในเอเชียก็ร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนกันยายน ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 14% ในเดือนนี้ ขณะที่ KOSPI ของเกาหลีใต้และ ดัชนี Taiwan Weighted ของไต้หวันร่วงลงประมาณ 11%

ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเป็นตลาดหุ้นเอเชียที่ทำผลงานแย่ที่สุดในวันศุกร์นี้ โดยลดลง 2.1% แม้ว่าข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกจะออกมาดีเกินคาด แต่ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนี้

ดัชนีนิคเคอิก็ขาดทุนเกือบ 8% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2020 ในช่วงที่การระบาดของโควิด19 เริ่มต้น ดัชนีระดับภูมิภาคอื่น ๆ ส่วนใหญ่คาดว่าจะเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กัน

หุ้นเอเชียร่วงลงในปีนี้จากความกลัวที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ท่ามกลางสัญญาณกระชับการเงินจากธนาคารกลางรายใหญ่หลายแห่งและรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงทั่วโลก

แรงกดดันต่อหุ้นในภูมิภาคคาดว่าจะดำเนินต่อไปเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น

ตลาดหุ้นจีนค่อนข้างเงียบหลังจากรายงานข้อมูล PMI ของเดือนกันยายนออกมาหลากหลาย ดัชนี CSI300 ลดลง 0.2% และขาดทุนรายเดือนเกือบ 7%

ในขณะที่การอ่านค่าอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของประเทศเติบโตอย่างไม่คาดคิดในเดือนกันยายน แต่รายงานการสำรวจจากภาคเอกชนแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตหดตัวมากกว่าที่คาดไว้

ข้อมูลอย่างเป็นทางการยังแสดงให้เห็นว่าภาคบริการของจีนเติบโตช้ากว่าที่คาดในเดือนกันยายน ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงอยู่อีกไกล

ดัชนีหุ้นบลูชิพ Nifty 50 ของอินเดียเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ธนาคารได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2022-2023 โดยอ้างถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบที่มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย