โดย Ambar Warrick
Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ โดยฟื้นตัวตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วงจากระดับสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา
แต่สัญญาณที่ดุดันของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้กำไรในตลาดอื่นถูกจำกัด เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่ามี โอกาส 85% ที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน
ถึงกระนั้นตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ทำผลงานได้ดี ทำให้ตลาดในภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในทิศทางที่จะทำกำไรรายสัปดาห์
ดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 ของจีนเพิ่มขึ้น 1.1% ในขณะที่ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากอ่อนค่าเกินคาดอย่างมาก โดยที่ การอ่านค่าเงินเฟ้อ สำหรับเดือนสิงหาคมได้ผลักดันความคาดหวังที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน
ปักกิ่งได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มการกระตุ้นมากขึ้นในไตรมาสที่สาม เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงจนถึงระดับที่ช้ามาก ๆ ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับโควิดอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีหุ้นจีนจะเพิ่มขึ้น 1.4% และ 2.2% ในสัปดาห์นี้ หลุดออกจากการขาดทุนทั้งสามสัปดาห์
ดัชนี ฮั่งเส็ง ที่มีกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของฮ่องกงทำผลงานได้ดีที่สุดสำหรับวันนี้ โดยพุ่งขึ้น 2.5% เนื่องจากผลตอบแทนที่ดีขึ้นของพันธบัตรส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ BATs trio- Baidu (NASDAQ:BIDU) Inc (HK:9888) Alibaba Group Holding Ltd (HK:9988) และ Tencent Holdings Ltd ( HK:0700) เพิ่มขึ้นระหว่าง 1.7% ถึง 4%
แต่การขาดทุนใน Tencent เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทำให้ดัชนีฮั่งเส็งขาดทุน 0.6% ในสัปดาห์ ท่ามกลางขาวการขายหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.5% และกำลังจะทะลุแดนลบในรอบสองสัปดาห์ บริษัทขุดเหมืองรายใหญ่ BHP Group Ltd (ASX:BHP) และ Rio Tinto Ltd (ASX:RIO) เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำผลงานดีที่สุดในดัชนี โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จากราคา ทองแดง ที่พุ่งขึ้นในชั่วข้ามคืนโดยคาดว่าอุปทานจะตึงตัวขึ้นอันเนื่องมาจากการนัดหยุดงานที่ Escondida ซึ่งเป็นเหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ข้อมูลเมื่อต้นสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า ดัชนีจีดีพี (GDP) ของออสเตรเลียขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่สอง แม้ว่าจะเป็นอัตราที่น้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ ดุลการค้า ร่วงลงในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการชะลอตัวของคู่ค้ารายใหญ่ของจีน
แม้ว่าสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นเอเชียจะปรับตัวขึ้น แต่ตลาดเอเชียส่วนใหญ่ยังคงขาดทุนอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกาได้กดดันตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดย้ำจุดยืนของธนาคารกลางในวันพฤหัสบดีโดยระบุว่าจำเป็นต้องมี การลงมือที่เข้มงวดเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นโดยเฟดมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในปีนี้