โดย Gina Lee
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นในเช้าวันพฤหัสบดี หลังนักลงทุนได้ข้อมูลจากการตัดสินใจนโยบายล่าสุดจากธนาคารกลางสหรัฐ
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.97% เมื่อเวลา 22:12 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:12 น. GMT) โดยตลาดจะเปิดขึ้นอีกครั้งหลังวันหยุด
KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.72% และ ASX 200 ในออสเตรเลียขยับขึ้น 0.18%
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.33%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนได้รับ 0.51% ในขณะที่ ดัชนีเซินเจิ้น นิ้วเพิ่มขึ้น 0.62%
หุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นโดย S&P 500, ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์, Nasdaq 100 และ Russell 2000 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เฟดส่งสัญญาณเริ่มต้นลดสินทรัพย์หลังส่งมอบ มอบการตัดสินใจ ในวันพุธ แม้ว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เขากล่าวเสริมว่า “เราคิดว่าเราสามารถอดทนได้ หากมีการเรียกร้อง เราจะไม่ลังเลใจ"
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐชะลอตัว ในขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนยังคงสูงชันกว่าก่อนการตัดสินใจของเฟด
มาตรการคาดการณ์เงินเฟ้อในตลาดตราสารหนี้กำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เหลืออยู่ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเดิมพันเกี่ยวกับไทม์ไลน์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีแนวโน้มว่าการปรับขึ้นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2565 และเพิ่มขึ้น 55 จุดภายในสิ้นปี 2565
นโยบายการเงินสามารถบ่งชี้ว่าอัตราจำเป็นต้องเพิ่มขึ้น แต่ในลักษณะที่ควบคุมได้และไม่ใช่เชิงรุกตามที่ตลาดแนะนำ” คริส อิกโก หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ AXA Investment Manager กล่าวในหมายเหตุ
“หากพวกเขาสามารถทำเช่นนั้นได้ ความเสี่ยงของตลาดพันธบัตรและตราสารทุนจะลดลง”
คริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า หน่วยงานด้านการเงิน “ไม่น่าจะ” ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 โดยนักลงทุนมีความเห็นต่างกันว่า ธนาคารกลางอังกฤษ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จะส่งมอบในภายหลัง
กระทรวงการคลังสหรัฐยังได้ประกาศลดการซื้อทรัพย์สินรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปีในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการเงินกู้ที่ลดลงเนื่องจากการใช้จ่ายในยุคโควิด-19 ก็ลดลงเช่นกัน
ขณะนี้นักลงทุนต่างรอรายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้