รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ดาวโจนส์เปิดตลาดบวก 235 จุด; ประเด็นเพดานหนี้เริ่มผ่อนคลาย

เผยแพร่ 07/10/2564 18:16
อัพเดท 07/10/2564 18:52
© Reuters

© Reuters

โดย Peter Nurse

Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี ต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้า ด้วยความเชื่อมั่นที่ได้รับแรงหนุนจากความกังวลว่าการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นนั้นผ่อนคลายลง

เมื่อเวลา 7.00 น. ET (1100 GMT) สัญญา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 235 จุดหรือ 0.7% สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 เพิ่มขึ้น 35 จุดหรือ 0.8% ขณะที่ Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 150 จุด หรือ 1%

ดัชนีในสหรัฐรีบาวน์ในวันพุธ หลังจากผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา มิตช์ แมคคอนเนลล์ เสนอให้ประนีประนอมการระงับเพดานหนี้สหรัฐในระยะสั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระ 

ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 100 จุดหรือ 0.3% หลังจากรีบาวน์จากช่วงก่อนหน้ากว่า 400 จุด S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ตกลงมามากถึง 1.3% ในขณะที่ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.5% พลิกกลับจากที่ขาดทุน 1.2% ก่อนหน้านี้

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจเน็ต เยลเลน กล่าวว่าการผิดนัดชำระหนี้ในครั้งนี้จะทำให้เกิดอันตรายที่ "ไม่สามารถแก้ไขได้" โดยอ้างถึงวิกฤตการณ์ทางการเงินและภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้น

ตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างมากในช่วงหลัง โดยได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนำไปสู่ความกังวลด้านเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐต้องปรับนโยบายผ่อนคลายที่เข้มงวดขึ้น

ข้อมูลจาก ADP ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธเผยว่า บริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ได้เพิ่มการจ้างงานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 568,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน

ตัวเลข ADP เป็นจุดเริ่มต้นของตัวเลข การจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งจะตามออกมาในวันศุกร์ ก่อนหน้านั้นคือข้อมูลรายสัปดาห์ ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งลดลงเหลือ 348,000 ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ตุลาคมจาก 362,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า

นอกจากนี้ ราคาพลังงานในยุโรปปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่สหรัฐฯ กล่าวว่ากำลังพิจารณาขายน้ำมันจากแหล่งน้ำมันสำรองร โดยรัสเซียกล่าวว่าพร้อมที่จะทำให้ตลาด ก๊าซธรรมชาติ มีเสถียรภาพ

ภายในเวลา 7.00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.5% ที่ 76.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 1% ที่ 80.30 ดอลลาร์ และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบนซิน ลดลง 0.8% สู่ 2.2929 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

นอกจากนี้ ราคาทองคำ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น $1,762.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ ค่าเงินยูโร ซื้อขายสูงขึ้น 0.1% ที่ 1.1563 ยูโรต่อดอลลาร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย