โดย Gina Lee
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกร่วงลงในเช้าวันอังคาร หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกโดนเทขาย จากความกังวลเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งรวมถึง น้ำมันดิบ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 3% เมื่อเวลา 21:54 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1:54 น. GMT) และ KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 2%
ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.73% ก่อนการตัดสินใจด้านนโยบายของ ธนาคารกลางออสเตรเลีย กำลังจะมาถึงภายในวันนี้ ส่วนธนาคารกลางนิวซีแลนด์ จะมอบการตัดสินใจในอีกหนึ่งวันต่อมา โดย ธนาคารกลางอินเดีย จะส่งมอบนโยบายในวันศุกร์
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.63%
ตลาดจีนปิดทำการในช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุน โดย Fantasia Holdings Group Co. Ltd. (HK:1777) พลาดการชำระหนี้พันธบัตรมูลค่า 205.7 ล้านดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดวันจันทร์ Fantasia Holdings เป็นผู้พัฒนาอสังหารายล่าสุดที่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินควบคู่ China Evergrande Group (HK:3333)
หุ้นทั่วโลกหยุดชะงักในเดือนกันยายน และร่วงลงมากกว่า 5% ตั้งแต่นั้นมา การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มลดสินทรัพย์ลงเร็วกว่าปกติ การชะลอตัวของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการเข้มงวดด้านกฎระเบียบของจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการชะลอตัวนี้ การอภิปรายยังดำเนินต่อไปในสหรัฐฯ ว่าจะเพิ่มเพดานหนี้หรือไม่ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่ารัฐบาลมีความเสี่ยงที่จะขัดต่อกฎหมายในเดือนตุลาคม
“เราคิดว่าตลาดจะมีความผันผวนมากขึ้น มันจะไม่เป็นเรื่องของ 'สินทรัพย์เสี่ยงย่อมขึ้นตามกาลเวลา' แบบเดิมเสมอไป เนื่องจากการฟื้นตัวจากโควิด-19” เอมิลี่ ไวส์ นักยุทธศาสตร์ระดับมหภาคState Street (NYSE:STT) กล่าวกับ Bloomberg
นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ ยังแนะนำว่าแรงกดดันด้านราคาที่สูงขึ้นสามารถเปลี่ยนความคิดของธุรกิจและผู้บริโภคได้ด้วยการทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ด้านสกุลเงินดิจิตอล Bitcoin ซื้อขายที่ระดับ 49,000 ดอลลาร์และพยายามฝ่าแนวต้านที่ 50,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เอลซัลวาดอร์เปิดตัวกฎหมายรองรับในเดือนกันยายน 2564