รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: รายได้, การใช้จ่าย, ค่าความเชื่อมั่น

เผยแพร่ 01/10/2564 02:30
อัพเดท 01/10/2564 08:31
© Reuters.

โดย Dhirendra Tripathi

Investing.com -- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไตรมาสที่สาม ในเดือนกันยายนอย่างน่าผิดหวัง แม้จะมีข้อตกลงในวอชิงตันที่เลี่ยงไม่ให้รัฐบาลปิดตัวลงแล้วก็ตาม

S&P 500 ร่วงลงอีกครั้ง และปิดตัวต่ำลง ทำลายสถิติการปรับตัวขึ้น 7 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หลายเรื่อง ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อไปจนถึงผลกระทบจากไวรัสระบาด ซึ่งมีต่อการจ้างงาน และความเชื่อมั่น

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการเติบโตใหม่ในไตรมาสที่สองให้สูงขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขที่เผยออกมาก่อนหน้านี้

แม้อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกฉุดด้วยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนไม่สนใจการเติบโตในด้านมูลค่า ตามรายงานของรอยเตอร์ส ในที่นี้ไม่รวม Netflix (NASDAQ:NFLX) หุ้นกลุ่ม FAANG ที่อ่อนไหวต่ออัตราได้มูลค่าหุ้นหายไปรวม 4 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ ส่วน Netflix บวก 8% สำหรับเดือนนี้

ผู้ค้าปลีกที่ประสบปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานยังคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ภาคส่วนทั้งหมดได้รับผลกระทบไม่เพียงปิดตัวจากการระบาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเกิดจากความยากลำบากในการจัดหาผลิตภัณฑ์และคลังสินค้ามาขาย

หุ้น Kohls Corp (NYSE:KSS) ร่วงลง 14% ในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ Lorraine Hutchinson นักวิเคราะห์ของ BofA ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นลงสองระดับ เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน Hutchinson ชี้ให้เห็นว่าแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดของผู้ค้าปลีก อย่าง Nike Inc (NYSE:NKE), Under Armour Inc A (NYSE:UAA) และ Adidas AG (DE:ADSGN) กำลังเผชิญกับปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เธอกล่าวว่า กระบวนการผลิตภัณฑ์ยังคงล่าช้าและเตือนนักลงทุนให้เตรียมพร้อมสำหรับช่วงครึ่งหลังที่ยากลำบาก

ต่อไปนี้คือสามปัจจัยที่นักลงทุนควรจับตาในวันนี้:

1. รายได้ส่วนบุคคล

รายได้ส่วนบุคคล ในสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอัตราที่ช้าลงในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ตามการประมาณการที่รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com พบว่าเติบโต 0.3% ในเดือนสิงหาคม เทียบกับการเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก่อนหน้า

2. การใช้จ่าย

อัตราการเติบโตของ การใช้จ่ายส่วนบุคคล ในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.6% ในเดือนสิงหาคมจาก 0.3% ของเดือนกรกฎาคม ข้อมูลของทั้งคู่ออกมาเวลา 8:30 น. ET (1230 GMT)

3. ค่าความเชื่อมั่นมิชิแกน

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนกันยายน และอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบทศวรรษ ข้อมูลของมหาวิทยาลัย มิชิแกน เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะเผยแพร่ในวันศุกร์ เวลา 10.00 น. ET และมีแนวโน้มว่าจะออกมาที่ 71 จุด เช่นเดียวกับเดือนสิงหาคม

ความคิดเห็นล่าสุด

Very good
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย