โดย Dhirendra Tripathi
Investing.com -- ตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลงในวันอังคาร เนื่องจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ และผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
ค่าความเชื่อมั่นในเดือนนี้ลดลงอย่างกะทันหันสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกสั่นคลอนจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่ก่อให้เกิดความกลัวต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนลบ
ในเวลาเดียวกัน สมาชิกสภานิติบัญญัติในวอชิงตันกำลังโต้เถียงกันเรื่องหนี้ในอนาคตของประเทศตัวเอง มีความเห็นขัดแย้งกันว่าจะขยายเงินทุนออกไปเกินวันพฤหัส หรือระงับวงเงินหรือไม่ โอกาสที่สหรัฐจะผิดนัดชำระ บวกภาษีที่สูงขึ้นที่ต้องจ่ายล้านล้านดอลลาร์ในการใช้จ่ายที่รัฐบาลกลางเสนอนั้น ก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นเช่นกัน
การขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นและยอดขายรถยนต์ที่คาดว่าจะลดลง ทำให้เกิดความกังวลใหม่เกี่ยวกับสถานะการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเป็น 1.56% กดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเติบโต ขณะที่นักลงทุนหนีซื้อหุ้นมูลค่า ธนาคารกลางกำลังเตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยขั้นแรกจะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน ซึ่งจะเริ่มในปลายปีนี้ และอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปลายปีหน้า
อย่างไรก็ตาม เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะเป็นพยานต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาในวันอังคาร เพื่อพูดในประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าตัวเลขจ้างงานยังห่างไกลจากเป้าหมาย
และนี่คือ 3 ปัจจัยที่นักลงทุนควรจับตาในวันนี้
1. ดราม่าในวอชิงตัน
สภาคองเกรสพยายามหาทางขยายการระดมทุนของรัฐบาลกลางในตอนเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและผู้บริหารหลายคนเตือนในคืนวันจันทร์ว่า หน่วยงานต่าง ๆ อาจปิดตัวลง เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระของสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้ยกเลิกความพยายามที่จะขยายการระดมทุนไปจนถึงเดือนธันวาคม และพักชำระหนี้ของประเทศไปไว้ในปีหน้า ตอนนี้พรรคเดโมแครตกำลังดิ้นรนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายซักอย่าง
2.ยอดขายบ้าน
สมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยข้อมูล ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย ของเดือนสิงหาคมในวันพุธ ตามการประมาณการ ภาคส่วนนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 1.4% เดือนต่อเดือน หลังจากที่ลดลง 1.8% ในเดือนกรกฎาคม ตามที่นักวิเคราะห์ที่รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com เผยแพร่เวลา 10.00 น. ET (1400 GMT)
3. แนวโน้มน้ำมัน
คลังน้ำมัน ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลดลง 1.652 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน หลังจากที่ตกลงไปในสัปดาห์ก่อนหน้า สินค้าคงคลังที่ลดลงกำลังเกิดขึ้นทำให้ราคาน้ำมันใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และนักวิเคราะห์ได้เพิ่มเป้าหมายราคาสำหรับทั้ง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ข้อมูลเผยแพร่เวลา 10.30 น. ET