โดย Dhirendra Tripathi
Investing.com -- ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยและกล่าวว่าจะจับตาดูความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดไปยังจุดที่จะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน
ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหลืออยู่ประมาณ 0% ถึง 0.25% สำหรับตอนนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีเหตุผลที่จะขยับขึ้นไปอีก โดยดัชนี Nasdaq ขยับขึ้นในช่วงบ่าย ขณะที่ ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงท้ายของการซื้อขาย
ผู้กำหนดนโยบายของเฟดอยู่ภายใต้แรงกดดันในการให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขาว่า เมื่อใดจึงจะเหมาะสมที่จะถอนตัวจากมาตรการกู้ยืมฉุกเฉิน เพื่อให้สหรัฐสามารถผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด
เฟดกล่าวว่า กำลังจับตาดูความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด
บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft (NASDAQ:MSFT), Alphabet (NASDAQ:GOOGL), Facebook (NASDAQ:FB) และ Apple (NASDAQ:AAPL) รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ โดยรายรับ 81 พันล้านดอลลาร์ของ Apple นับเป็นการเพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนหน้า และเหนือกว่าคาดการณ์ที่ 73 พันล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ iPhone
แต่ราคาหุ้น Apple กลับร่วงลง เมื่อนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนส่วนประกอบที่อาจส่งผลต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สาม
วันนี้จะถึงคิวของ Amazon (NASDAQ:AMZN)
ต่อไปนี้คือ สามสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:
1. ผลประกอบการของ Amazon
ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon คาดว่าจะรายงานกำไรต่อหุ้นที่ 12.24 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรายรับที่ 115.33 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ที่ติดตามโดย Investing.com
2. หุ้นสื่อฯ
Comcast (NASDAQ:CMCSA) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ NBC Universal ก็คาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาสสองในวันนี้เช่นกัน โดยคาดว่ารายรับจะอยู่ที่ 27.13 พันล้านดอลลาร์และกำไรต่อหุ้น 65 เซนต์
3. ผลประกอบการบริษัทอื่น ๆ
ในสัปดาห์นี้ บริษัทอื่น ๆ จะทะยอยรายงานผลประกอบการ โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Merck & Company (NYSE:MRK) มีแนวโน้มที่จะรายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่สองที่ 1.40 ดอลลาร์จากรายรับ 11.09 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ติดตามโดย Investing.com ส่วนบริษัทน้ำมันรายใหญ่ Royal Dutch Shell (LON:RDSa (NYSE:RDSa) คาดว่าจะรายงานผลกำไรต่อหุ้นที่ 1.21 ดอลลาร์และรายได้ 78.09 พันล้านดอลลาร์