โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – สำหรับตลาดหุ้นไทย (SET) วันนี้ โบรกเกอร์มองกรอบหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,545-1,560 จุด แกว่งตัว จากความกังวลสถานการ์โควิด-19 ที่ยังเป็นปัจจัยหลักกดดันตลาด แนะเน้น 14 หุ้นทำกำไรไตรมาส 2 โตโดดเด่น ท่ามกลางวิกฤติ
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ตลาดยังมีปัจจัยบวกคือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นราคาน้ำมันดิบทั้ง Brent และ NYMEX ราว 2% แต่ยังประเมินว่า หุ้นไทยจะแกว่งตัวออกข้างวันนี้ เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์และต้นสัปดาห์หน้า เป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุด ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจเลือกที่จะขายลดน้ำหนักการถือครองหุ้นออกมาก่อน
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่
1. PRM โดยภาพทางเทคนิค แนวต้าน 7.10 บาท แนวรับ 6.75 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 6.50 บาท แนวโน้มกำไร 2Q64 คาดทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Valuation ไม่แพงที่ PER2564 ราว 11 เท่า ถูกที่สุดในหุ้นกลุ่มเดินเรือ ราคาปิดที่ 6.80 บาท ให้แนวต้านทางเทคนิค 7.10 บาท
2. BCPG คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2 ปี 2564 เติบโตทั้ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา จากแรงหนุนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และการรับรู้รายได้ตาม MW ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ราคาปิด 14.50 บาทแนวต้านทางเทคนิค 15.00 บาท
3. SPALI คาดกำไรปกติไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 1.5 พันลบ. เติบโต +260% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และ +104% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา จากการรับรู้รายได้โครงการแนวสูง คือ Supalai Premier Charoen Nakorn และ Supalai Riva Grande และโครงการแนวราบยังเติบโตได้ดี ราคาปิด 21.30 บาทแนวต้านทางเทคนิค 22.00 บาท
4. KBANK เป็นหุ้นรับความเสี่ยงได้สูง โดยมีการประเมินกันว่า กลุ่มธนาคารมีโอกาสตอบรับเชิงบวก หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้นในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ COVID แย่ลง จะมีจุด Stop loss หากราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่า 104.00 บาท ราคาปิด 107.00 บาทแนวต้านทางเทคนิค 110.00 บาท