ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปีครึ่งตามรายงานของรอยเตอร์ หลังจาก นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยว่าเขาสามารถที่จะจัดการเลือกตั้งเพื่อขัดขวางความพยายามของคณะรัฐบาลที่จะหลีกเลี่ยง Brexit แบบไม่มีข้อตกลงได้
ดัชนีของ MSCI ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนอกญี่ปุ่น ปรับลง 0.2% ในช่วงครึ่งแรกของการซื้อขาย ขณะที่ดัชนี ซบเซา
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ค่อนข้างคงตัวช่วงเช้าวันนี้หลังจากวันหยุดเทศกาลในสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบอายุสิบปีนิ่งอยู่ที่ 1.506%
ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับแรงต้านจากภาษีศุลกากรที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนเรียกเก็บฝ่ายตรงข้าม
สหรัฐฯ เริ่มเรียกเก็บภาษีศุลกากร 15% สำหรับสินค้าจีนหลากหลายประเภทเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนจีนเองก็เริ่มเรียกเก็บภาษีน้ำมันดิบสหรัฐฯ อันเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นในสงครามทางการค้า
แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงมีกำหนดการนัดพบเพื่อเจรจากันในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้ แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงก็ตาม
ทางด้านจีนก็ได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่า จีนได้ยื่นคำร้องไปยังองค์การการค้าโลกเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีการนำเข้าของสหรัฐฯ และกล่าวหาการขึ้นภาษีครั้งล่าสุดของสหรัฐฯ ว่าเป็นการละเมิดมติที่เคยได้ตกลงกันไว้ระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ ในการประชุม ณ กรุงโอซากา