InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มพลังงานหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่น่าผิดหวัง ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง เนื่องจากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงอย่างไม่คาดคิด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 515.83 จุด ลดลง 0.62 จุด หรือ -0.12%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,357.08 จุด ลดลง 52.49 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,313.81 จุด ลดลง 92.11 จุด หรือ -0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,262.05 จุด ลดลง 38.28 จุด หรือ -0.46%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยกลุ่มยานยนต์เป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 2.8%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูที่พึ่งพาตลาดจีน เช่น หุ้นหลุยส์วิตตอง (LVMH) ลดลงกว่า 1% หลังข้อมูลบ่งชี้ว่ายอดขายปลีกในจีนชะลอการขยายตัว
ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 1% ในขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้น 1.1% สวนทางตลาด
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง หลังจากมูดี้ส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ปรับลดอันดับเครดิตของฝรั่งเศสลงอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันศุกร์ จาก "Aa2" เป็น "Aa3" พร้อมคงแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ "มีเสถียรภาพ"
ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แต่งตั้ง ฟรองซัวส์ เบรู นักการเมืองสายกลางที่มีประสบการณ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของเขาในปีนี้
ส่วนในเยอรมนีนั้น รัฐสภาได้ตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ในการลงมติไม่ไว้วางใจต่อเขาและรัฐบาล
ส่วนผลการสำรวจระบุว่าเศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนธ.ค. แต่กิจกรรมทางธุรกิจยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ภาคบริการของฝรั่งเศสหดตัวลงอีก
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของเขตยูโรโซนจาก HCOB บ่งชี้ว่า โดยรวมแล้ว การลดลงของกิจกรรมทางธุรกิจในเขตยูโรโซนลดลงเล็กน้อยในเดือนนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมบริการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)