📊 ดูวิธีการที่นักลงทุนชั้นนำสร้างพอร์ตของพวกเขาค้นหาไอเดียการเทรด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 382.15 จุด กังวลนโยบายทรัมป์ทำเงินเฟ้อพุ่ง

เผยแพร่ 13/11/2567 13:36
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 382.15 จุด กังวลนโยบายทรัมป์ทำเงินเฟ้อพุ่ง
NDX
-
US500
-
STOXX50
-
AMGN
-
TSLA
-
US10YT=X
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งความกังวลว่านโยบายต่าง ๆ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,910.98 จุด ลดลง 382.15 จุด หรือ -0.86%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,983.99 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,281.40 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ -0.09%

ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่รู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนขานรับนโยบายของทรัมป์ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีของภาคเอกชน และการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคส่วนต่าง ๆ แต่ตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากนักลงทุนเริ่มกังวลว่านโยบายของทรัมป์จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

แจ็ค แอบลิน ประนเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัท Cresset Capital กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลว่าการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า การปรับลดภาษีของภาคเอกชน และการใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้อพยพของรัฐบาลทรัมป์อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.44% เมื่อคืนนี้

รัสเซลล์ ไพรซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Ameriprise Financial กล่าวว่า นอกจากแรงขายทำกำไรแล้ว การที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศร่วงลงก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน โดยดัชนี STOXX 600 ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเกือบ 2% หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนว่า การที่ทรัมป์ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลง 1.57% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.34% ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวขึ้น 0.51% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 0.45%

หุ้นบางตัวที่เคยได้รับแรงหนุนจากชัยชนะของทรัมป์ปรับตัวลง โดยหุ้นเทสลา (Tesla (NASDAQ:TSLA)) ปิดตลาดดิ่งลง 6% หลังจากทะยานขึ้นเกือบ 40% นับตั้งแต่วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

หุ้นแอมเจน (Amgen) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลงกว่า 7% และเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดาวโจนส์ หลังจากที่หุ้นแอมเจนถูกทุบขายในช่วงท้ายตลาด

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. จากนั้นในวันศุกร์จะมีการรายงานยอดค้าปลีกเดือนต.ค.และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย