Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทำสถิติสูงสุดในวอลล์สตรีท หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่อ่อนเกินคาดกระตุ้นความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024
แรงหนุนจากวอลล์สตรีทช่วยให้ตลาดเอเชียมองข้ามปัญหาจากจีนและญี่ปุ่นได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวและรัฐบาลไบเดนปรับเพิ่มภาษีการค้าบางส่วนต่อจีน
ดัชนีวอลล์สตรีทปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ หลังจากข้อมูล CPI ที่อ่อนเกินคาด ทำให้เทรดเดอร์เพิ่มความคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย
Nikkei ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แต่ GDP ที่อ่อนแอจำกัดการเติบโต
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.6% หลังได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นตามหุ้นประเภทเดียวกันในวอลล์สตรีท
แต่ภาคส่วนอื่น ๆ ที่อ่อนไหวทางเศรษฐกิจมากกว่าก็ลดลง รวมถึงดัชนี TOPIX ซึ่งมีหุ้นเทคโนโลยีน้อยกว่า Nikkei
ข้อมูล GDP แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหดตัวมากกว่าที่คาดไว้มากในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงและค่าจ้างที่ถดถอยทำให้ การบริโภคภาคเอกชน อ่อนตัวลงอย่างมาก
รายจ่ายฝ่ายทุน ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตตลอดสองไตรมาสที่ผ่านมา ก็ชะลอตัวลงอย่างมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ระมัดระวังในการลงทุน
ข้อมูลที่อ่อนแอได้เพิ่มความสงสัยว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะสามารถกระชับนโยบายได้มากเพียงใดในปีนี้ แม้ว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น แต่เศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับเป็นอุปสรรค
หุ้นจีนซบเซาจากความระมัดระวังทางการค้าและเศรษฐกิจ
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดภูมิภาคอื่น ๆ ในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3% ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงก็เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งค่อนข้างน้อยกว่าดัชนีอื่นเช่นกัน
ความเชื่อมั่นต่อตลาดจีนถูกกระทบจากการที่รัฐบาลไบเดนเพิ่มภาษีการค้าต่อหลายภาคส่วนสำคัญของจีน ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า ยา และพลังงานแสงอาทิตย์
แม้ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทันทีจากการเก็บภาษีจะยังไม่ชัดเจน แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ปักกิ่งไม่พอใจและขู่ว่าจะตอบโต้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอีกครั้ง
การคาดการณ์ในข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก็ทำให้เกิดความระมัดระวังต่อจีนเช่นกัน โดยข้อมูล การผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ยอดค้าปลีก นั้นมีกำหนดการณ์ประกาศในวันศุกร์
ตลาดอื่นในเอเชียก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ASX 200 ของออสเตรเลียเป็นตลาดที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.8% ขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลในวันนี้ยังแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงาน ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความหวังว่าตลาดแรงงานจะเย็นลง
กำไรในหุ้นเทคโนโลยีส่งผลให้ KOSPI ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 0.8%
ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบเชิงบวก หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเคลื่อนไหวตามหุ้นประเภทเดียวกันในตลาดอื่นทั่วโลก แต่การเพิ่มขึ้นก็คาดว่าจะถูกจำกัดด้วยความระมัดระวังเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียในปี 2024